ผู้กองธร เปิดใจ ภารกิจเปิดโปงอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัดกว่า 800 ล้านบาท เป็นเรื่องยากแต่ไม่เกินความสามารถของทีม
วันนี้ (18 พ.ค.68) ทีมมข่าว 7HD ได้มีโอกาสไปเปิดใจ ร้อยตำรวจเอก นิติธร ประชันกาญจนา หรือ ผู้กองธรเจ้าของฉายา “สายลับวัดไร่ขิง” ที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในวัดเพื่อสืบหาข้อมูลคดี พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัดกว่า 800 ล้านบาท
ผู้กองธร เล่าว่า กรณีนี้เริ่มต้นจากได้รับการร้องเรียนเรื่องความโปร่งใสเกี่ยวกับเงินบริจาควัดไร่ขิง ทางกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม จึงจัดตั้งทีมขึ้นมาเพื่อเข้าไปสืบหาข้อมูล
ผู้กองธร ยังบอกว่า ตนเองทำคดีใหญ่ ๆ มามาก จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้มาทำคดีนึ้ ตอนแรก ทราบแค่ว่าเป็นภารกิจ ว.5 หรือ ภารกิจลับ มารู้ภายหลังว่าเป็นคดีในวัดไร่ขิง ยอมรับว่า หนักใจอยู่พอสมควร ไม่ใช่งานง่าย เพราะเป็นวัดใหญ่ วัดดัง ที่ต้องไปสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องเงิน
โดยทำงานเป็นทีม มีทีมสืบค้นข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว โดยมีคำสั่งว่าห้ามแสดงตัวโดยเด็ดขาด
ช่วงแรกต้องไปศึกษาพฤติกรรมของคนที่ไปทำบุญ เจ้าหน้าที่วัดทำอะไรกันบ้าง กิจของสงฆ์มีอะไรบ้าง และติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าอาวาส โดย 2 วันแรกไปซุ่มจอดรถอยู่ในลานจอด สตาร์ตรถเปิดแอร์ก็ไม่ได้ จะได้ไม่เป็นที่สังเกต ทนร้อนนั่งอยู่ในรถ สังเกตการณ์ตลอดทั้งวันทั้งคืน เพราะวัดไร่ขิงมีคนมาทำบุญตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อหาวิธีที่พรางตัวเข้าไปอยู่ในวัด
ก่อนลงมือไปแฝงตัว ผู้กองธรไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนไปสักการะขอพรหลวงพ่อวัดไร่ขิง ขอพรให้บารมีหลวงพ่อช่วยปกปักษ์รักษาให้ทำงานสำเร็จ เพราะมาดี มาเพื่อขจัดสิ่งไม่ดีภายในวัดออกไป
จากนั้นก็ได้เดินสำรวจภายในวัด ดูแผนผัง ภายในวัดว่าสถานที่นี้อยู่ที่ใด กุฎิพระ กุฎิเจ้าอาวาสอยู่ที่ใด รวมทั้งตำแหน่งของพระ และเจ้าหน้าที่วัด ว่าใครมีตำแหน่งอะไรทำหน้าที่อะไรบ้าง
ต่อมาก็หาข้อมูลว่า ในวัดมีตู้บริจาคมีกี่ตู้ แผงจำหน่ายวัตถุมงคลกี่แผง เพื่อให้รู้แหล่งที่มาของรายได้ของวัด จึงใช้วิธีเช่าวัตถุมงคลแล้วโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ทำให้รู้บัญชีธนาคารบัญชีแรก ก่อนจะขยายผลพบว่าวัดมีกี่บัญชีกว่า 20 บัญชี สืบค้นเส้นเงินเงินบริจาคและรายได้ของวัดว่าไปยังบัญชีใดบ้าง ใช้เวลาอยู่เป็นเดือนกว่าจะหาข้อมูลได้ครบถ้วน พบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น อดีตพระเอกพจน์, สีกาเก็น, นายสุจิตร, นายธรรมลักษณ์ และฉัตรชัย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด
ระหว่างนั้นก็ต้องหากิจกรรมทำให้วัด เช่น กวาดวัด, ทำความสะอาดห้องน้ำวัด, ปัดกวาดเช็ดถูวัด ให้ดูเนียนว่าเป็นญาติโยมที่มีจิตศรัทธา และมีจิตอาสาอยากช่วยพัฒนาวัด จนคนในวัดเรียก ผู้กองธร ว่า “ลุงใจดี”
เมื่อเส้นเงินเริ่มมีความชัดเจน ภารกิจต่อไปคือ หาอดีตพระเอกพจน์ พระคนสนิทของ ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพราะพบว่าเงินส่วนใหญ่ไปเข้าบัญชีอดีตพระเอกพจน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไปเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันที่มีสีกาเก็นเป็นผู้ต้องหา อดีตพระเอกพจน์จึงถูกขับออกจากวัดไป แล้วไปลาสิกขาที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย ก่อนจะไปอยู่ที่เชียงใหม่ในเวลาต่อมา ซึ่งผู้กองธรก็พยามติดตามหาอดีตพระเอกพจน์ แต่ก็ไม่เจอตัว พบเพียงเส้นเงินจากดีตพระเอกพจน์ที่ไปถึงสีกาเก็น
อีกภารกิจสำคัญคือการตามสะกดรอย ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพื่อดูพฤติกรรม เพราะโดยปกติจะเข้าถึงยากมาก คนที่จะเข้าถึงได้มักจะเป็นญาติโยมที่แต่งตัวดูดี มีเงิน นั่งรถหรูไปหา จึงจะเข้าถึงตัวทิดแย้มได้ จากการติดตามสะกดลอยทิศแย้มอยู่เดือนกว่า ไม่ว่าจะออกไปรับกิจนิมนต์ที่ใด จังหวัดใด ก็จะตามไปทุกที่ ยังไม่เคยพบทิดแย้มแอบไปหาสีกาเก็น เรื่องความสัมพันธ์ฉันชู้สาวจึงตัดออกไป แต่มุ่งไปที่เรื่องการยักยอกเงินวัดจำนวนมหาศาล
จนเวลาผ่านไป 8 เดือน ทีมสืบสวนก็รวบรวมพยานหลักฐานจนขอศาลอนุมัตหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และหมายค้นวัดไร่ขิง แต่ทิพย์แย้มก็ยังมีอีกาคาบข่าวไปบอกก่อน จึงชิงมอบตัวก่อนปฏิบัติการเพียง 1 วัน
ผู้กองธร บอกว่า การคดีนี้ทำให้ตนเองรู้สึกภูมิใจอีกครั้ง เหมือนตอนที่ได้รับเลือกเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมการแข่งขัน แต่ความภูมิใจครั้งนี้เป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา จากเหลือบที่หาผลประโยชน์กับวัดไร่ขิง ภารกิจสำเร็จได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า มาจากบารมีของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ที่เคยขอพรไว้ก่อนลงมือทำภารกิจนี้ เชื่อว่าจะทำให้คืนศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนที่มีต่อวัดไร่ขิงได้ เพราะศาสนาไม่มีเสื่อม ที่เสื่อมก็มีแต่คน ค่ากำจัดคนไม่ดีให้ออกไป ก็จะเป็นบุญใหญ่ที่ตนเองได้รับ
จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยคาดหวังว่า ตนเองจะมีชื่อเสียงโด่งดังจากคดี คดีนี้จะไม่สำเร็จเลยถ้าไม่มีทีมงานที่ดี ตนเองจึงขอยกประโยชน์ทั้งหมดนี้ให้กับทีมงานกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ที่ทำงานร่วมกันมา และจากการที่ตนเองโด่งดังมีชื่อเสียง จะไม่มีผลกระทบต่องาน จะเดินหน้าเป็นสายสืบสายลับต่อไป ไม่กลัวว่าใครจะมาเช็คบิล หรือจะมาเอาคืนแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าตนเองทำตามหน้าที่และทำกรรมดีทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ในอดีตผู้กองธรเคยทำคดีสำคัญมาหลายคดี เช่น
1.ไล่ล่าจับกุมไอ้ตั้ม หรือ เอ็ม มือสังหารโหด เศรษฐีนีสายบุญ ยัดตู้เย็น จังหวัดเชียงใหม่
2.จับกุม ปุ๊ขาโหด ฆ่ายกครัว 5 ศพจังหวัดอุตรดิตถ์
3.จับกุมนาย ณัฏฐกิตติ์ หรือ หมี วงศ์อนันต์สุข เจ้าของโรงงานเชือดหมูยิงสารวัตรกำนันราชบุรี พร้อมเพื่อนดับ 2 ศพคางานเลี้ยง
4.จับกุมนายอำนาจ หรือ เก่ง หยาดเพชร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงถล่มบ้านพลโททหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย
อีกทั้งยังฝากบอกน้อง ๆ ตำรวจรุ่นหลังว่า เมื่อได้รับมอบหมายทำภารกิจอะไรก็ตามก็อยากทำให้เต็มที่ อย่าไปหวังว่าทำแล้วได้อะไร จะมีผลประโยชน์กลับมาคุ้มค่าหรือไม่ เพราะผู้บังคับบัญชาจะเห็นของเรา สิ่งดี ๆ กลับมาหาเราในสักวันหนึ่ง