จากกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอแนวคิดให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แบบเหมาจ่ายในอัตรา 1% กับผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อขยายฐานภาษี คาดเก็บรายได้เพิ่มกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี
ล่าสุด กลุ่มภาคธุรกิจรายเล็กไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว โดย ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์ SME ไทย แสดงจุดยืนคัดค้าน ระบุว่า เศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงเปราะบาง หนี้ครัวเรือน หนี้ภาคธุรกิจยังสูง SMEรายย่อยยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุน การเพิ่มภาระภาษีจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง การจะลดเกณฑ์ VAT ลง เท่ากับเปิดแนวรบใหม่ให้คนตัวเล็กต้องสู้โดยไม่มีอาวุธ รีดเลือดจากปู
ด้าน นางอัญชลี มณีท่าโพธิ์ นายกสมาคมสำนักงานบัญชีไทย บอกว่า การเก็บ VAT แบบเหมาจ่าย 1% โดยไม่คำนึงถึงต้นทุน เป็นภาระหนักสำหรับธุรกิจรายย่อยที่ยังไม่ฟื้นตัว ผู้ประกอบการรายเล็กกำลังประสบปัญหาหนัก แต่ถ้าต้องมารับภาระ VAT เหมาจ่าย 1% เพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล เป็นการรีดเลือดจากปู เพิ่มภาระความทุกข์ให้กับพวกเค้าอีก ขอถามว่า ถูกต้องแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอจากสมาพันธ์ SME ไทย ว่า เพื่อสร้างสมดุลในการจัดเก็บรายได้ภาษี พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทางรัฐบาลควรทบทวนแนวคิดจัดเก็บ Micro VAT อย่างรอบด้าน จากนั้นเร่งโครงการเมกะโพรเจกต์ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ปิดช่องโหว่ทุนแฝง นอมินีต่างชาติ ด้วยกฎหมายที่เข้มงวด ดึงนักลงทุนต่างชาติที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมสร้างระบบกฎหมายที่เป็นธรรม และ จัดตั้งกองทุนสนับสนุน SME วงเงิน 100,000 ล้านบาท เพื่อเสริมธุรกิจรายเล็ก
ทั้งนี้ สมาพันธ์ SME ไทย และ สมาคมสำนักงานบัญชีไทย ย้ำว่า การขยายฐานภาษีควรพิจารณาในเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่ผลักภาระไปยังผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังไม่พร้อมเดินหน้า