ตลาดสายลมจอยเหงามาก แม่ค้าบ่นอุบสมัยโควิดว่าแย่ ตอนนี้หนักกว่า เงินหมื่นแจกไม่คุ้ม กำลังซื้อไม่มีเพราะคนต้องรัดเข็มขัด ค่าครองชีพแพง อยากให้รัฐบาลลดค่าไฟฟ้าค่าน้ำมัน คิดถึงโครงการคนละครึ่ง ถ้ากลับมาคงกระตุ้นการค้าขาย
ที่ตลาดสายลมจอย ย่านการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ทางด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย บรรยากาศการค้าขายเป็นไปอย่างเงียบเหงา ในแต่ละวันแทบไม่มีผู้คนออกไปท่องเที่ยวจับจ่ายซื้อหาสินค้าอย่างที่เคยเป็นมา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าพากันบ่นเสียงเดียวกันว่า “ช่วงโควิดว่าแย่แล้วช่วงนี้หนักกว่า” อยากให้รัฐบาลหาทางลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยเฉพาะค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้า
แม่ค้าในตลาดสายลมจอยคนหนึ่ง บอกว่า ค่าครองชีพที่สูงอยู่อย่างนี้ ทำให้ประชาชนต้องรัดเข็มขัด จนไม่มีใครออกมาจับจ่ายซื้อหาสินค้า ถ้าก่อนโควิดมียอดขาย 100 ช่วงโควิดยอดขายจะลดลงเหลือ 50 แต่ยอดขายตอนนี้ลดเหลือเพียง 20-30 เท่านั้น
แม่ค้าตลาดสายลมจอยคนนี้ ยังให้ความเห็นถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินสด 10,000 บาทเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เงินที่มาถึงชาวบ้าน เมื่อสามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ ก็ไม่ถูกนำมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าในตลาดอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ชาวบ้านอาจเอาไปใช้อย่างอื่นซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงิน ต่างจากการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการคนละครึ่ง ตอนนั้นเงินที่รัฐบาลจ่ายให้มาแล้ว ผู้ใช้ต้องสมทบไปอีก การใช้เงินต้องมาสแกนจ่ายซื้อสินค้าตามร้านค้า ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ โครงการคนละครึ่งจึงเป็นวิธีที่ทำให้เกิดการจับจ่ายจริง ทำให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ถ้านำกลับมาใช้อีกน่าจะทำให้บรรยากาศการค้าขายดีกว่าที่กำลังเป็นอยู่