วันนี้ (21 พ.ค. 68) มีรายงานว่า มีสิ่งปลูกสร้าง 4 โครงการรัฐ สร้างแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ สูญเงินเกือบ 200 บาท ผ่านมากว่า 10 ปี ยังเป็นปัญหาคาใจของประชาชนชาว จ.นครพนม รวมถึงผู้พบเห็น อีกทั้งยังปล่อยทิ้งร้าง เป็นซากปรักหักพัง ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย กลุ่มพื้นที่ 3 ที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท อยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2554 สุดท้ายไม่ได้ใช้งานปล่อยทิ้ง
2. โครงการก่อสร้าง อาคารหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ของ อบจ.นครพนม ก่อสร้างภายในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เมื่อประมาณ ปี 2555 ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 30 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นศูนย์จัดกิจกรรม จำหน่ายสินค้าโอท็อปของชุมชน รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่ จ.นครพนม แต่ปัจจุบันอาคารหลังดังกล่าวที่มีขนาดใหญ่ สร้างแบบทรงไทย เป็นอาคารยกสูงครึ่งปูนครึ่งไม้ สวยงามอลังการ ถูกปล่อยทิ้งไม่มีการใช้งานนานกว่า 10 ปี ทำให้เกิดปัญหาชำรุดทรุดโทรม ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ รวมถึง อบจ.นครพนม ไม่เร่งรัดดูแลแก้ไขอย่างจริงจัง ทิ้งไว้เป็นอาหารปลวก ไม้ตัวอาคารเริ่มผุพังเสียหายหนัก ยากที่จะซ่อมแซม
ส่วนโครงการที่ 3 คือ โครงการค่ายลูกเสือโลก มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม รวมถึงอาคารอำนวยการค่ายลูกเสือ ห้องน้ำมาตรฐาน และอาคารเอนกประสงค์ ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในความดูแลของ จ.นครพนม ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2555 สุดท้ายปล่อยร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ และโครงการที่ 4. โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ของ อบจ.นครพนม ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในพื้นที่ ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 สุดท้ายใช้งานไม่ได้ ถูกปล่อยร้าง ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ
ทั้งนี้ รวม 4 โครงการ ที่ใช้งบประมาณภาษีประชาชน มีมูลค่าความเสียหายมากเกือบ 200 ล้านบาท เป็นที่น่าสังเกตว่า ถึงแม้บางโครงการจะมีการตรวจสอบ เอาผิดจากองค์กรอิสระ ป.ป.ช. รวมถึง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง แต่ยังถูกแช่แข็งไม่ชัดกับแนวทางเอาผิดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ส่วนบางโครงการยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบ เอาผิดฐานความผิดละเมิด และเอาผิดทางอาญากับเจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างอาคารหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ของ อบจ.นครพนม งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท และ โครงการค่ายลูกเสือโลก ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ สตง. นครพนม แต่ยังไม่มีความชัดเจนในการตรวจสอบเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ หรือกลุ่มบุคคลที่ผลักดันโครงการให้เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนชาว จ.นครพนม รวมถึงผู้พบเห็นโครงการ อดคิดไม่ได้ว่าเป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์แอบแฝง แต่ไม่คำนึงถึงความคุ้มค่าของงบประมาณจากภาษีประชาชน สำคัญที่สุดถือเป็นโครงการ สิ่งปลูกร้าง ตัวชี้วัดถึงศักยภาพ ของ องค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช. และ สตง. ว่าจะมีความสามารถหาคนมารับผิดชอบ และชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะหากทำไม่ได้ จะกลายเป็นอนุสรณ์สถาน ที่ยืนยันถึงความล้มเหลวในการตรวจสอบเอาผิด ทำให้ข้าราชการ และนักการเมือง ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่เกรงกลัวความผิด และกระทำผิดซ้ำซาก