แม่วัย 63 ผูกคอดับใต้ต้นไม้ ด้านลูกชายคนโต-ลูกสะใภ้ เผย แม่ป่วยโรคพาร์กินสัน และเคยอยู่กับน้องสาวแต่ไม่ดูแลจึงไปรับมาอยู่ด้วย และเวลาแม่โทรหาน้องสาวก็ถูกต่อว่าแถมไล่ให้แม่ไปตาย
วันนี้ (22 พ.ค. 68) ร.ต.ท.วรินทร โสตะวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยห้วยหลวง ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.บ้านเชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี
ณ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบ นางหนู อายุ 63 ปี ใช้เชือกไนลอนผูกคอตัวเองกับต้นตะแบกข้างบ้านเสียชีวิต สภาพนั่งเหยียดขา สวมเสื้อแขนสั้นลายดอกและนุ่งผ้าถุงสีม่วง จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจประมาณ 8-12 ชั่วโมง
ทาง นายเอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี และ นางบี (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ลูกชายและลูกสะใภ้ของผู้ตาย ได้จุดธูปขอขมาศพแม่ โดยกล่าวว่า ขอขมาสิ่งที่ลูกหลานพุดไม่ถูกไม่ควร ขออโหสิกรรมสิ่งที่ทำให้แม่น้อยใจทำให้โกรธสิ่งใดก็ตามลูกไม่ได้เจตนา ขอให้แม่ไปดี อย่าถือโทษโกรธลูกหลาน พวกตนพูดอะไรให้คิดเล็กคิดน้อยก็ขอให้ปล่อยวาง อย่าโกรธเกลียดเคียดแค้น
ทาง นายเอ ลูกชายผู้พบศพแม่ เล่าว่า พ่อได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว แม่มีลูก 5 คน ผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 2 คน ตนเป็นลูกคนโต เมื่อช่วงเช้า ตนตื่นขึ้นมาไม่เห็นแม่เพราะปกติแม่จะตื่นมาชงน้ำดื่ม จึงเดินไปดูแม่ที่ห้องนอนแต่ก็ไม่พบ จึงเดินตามหารอบบ้านและได้พบว่าแม่ผูกคอเสียชีวิตแล้ว ก่อนหน้าแม่เคยบอกว่าจะผูกคอตาย ซึ่งตนก็ห้ามแม่ไว้ ทั้งที่แม่ก็ไม่มีหนี้ แต่แม่ป่วยเป็นพาร์กินสัน
ด้าน นางบี ลูกสะใภ้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้แม่ได้เลี้ยงหลานให้ลูกสาวอยู่ที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แต่พอแม่ไม่สบายเดินไม่ได้ ลูกสาวก็ให้คนข้างบ้านเลี้ยงหลานแทน และไม่ส่งเงินให้แม่ใช้ เมื่อสามีของตนรู้ว่าแม่ป่วยและอยู่คนเดียวจึงไปรับแม่มาดูแล 2 ปีแล้ว จากที่แม่เดินไม่ได้เลยตอนนี้อาการดีขึ้นและเดินได้ แต่แม่ก็บ่นคิดถึงลูกสาว แต่ลูกสาวไม่อยากเลี้ยงแม่ เพราะแม่ป่วย พอแม่โทรศัพท์หาลูกสาว ทางลูกสาวก็บอว่า "โทรมารบกวนทำไม ไปอยู่โน้นก็อยู่ไปเลย ถ้าอยู่ไม่ได้อยากตายก็ตายไป ไม่ต้องมายุ่ง" ซึ่งตนก็บอกเขาว่าให้มาขอขมาแม่ แต่เขาก็ไม่มา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายป่วยและคิดถึงลูกสาว แต่ลูกไม่มาหา จึงน้อยใจเลยผูกคอตาย ซึ่งทางครอบครัวไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
