คิดว่านอนหลับ ลูกออทิสติกเฝ้าศพพ่อบนรถ 3 วัน

คิดว่านอนหลับ ลูกออทิสติกเฝ้าศพพ่อบนรถ 3 วัน

View icon 1.4K
วันที่ 28 พ.ค. 2568 | 14.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พ่อพาลูกไปตกปลาชายทะเล ก่อนนอนเสียชีวิตอยู่ท้ายรถกระบะ ลูกออทิสติกไม่รู้คิดว่าพ่อนอนหลับ นั่งเฝ้าศพพ่อนาน  3 วัน ไม่ได้กินข้าว

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันที่ 28 พ.ค.68 พ.ต.ท.จรัญ สุขสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ ได้รับแจ้งว่าพบศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถบริเวณท้ายกระบะรถ ซึ่งจอดอยู่ริมชายหาดทะเลบ้านหว้ากอ เขตเทศบาลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมเจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯและ แพทย์หญิงธิดาพร เปล่งอุดมกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ตอนเดียว ยี่ห้อ nissan สีม่วง มีหลังคาคลุมกระบะ จอดอยู่บริเวณริมชายหาด ตรวจสอบภายในรถบริเวณท้ายกระบะ พบศพชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงาย นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา-ดำ ไม่สวมเสื้อ สภาพขึ้นอืดผิวหนังหลุดร่อน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ทราบชื่อต่อมา นายเอกพล อายุ 59 ปี โดยมีลูกชายซึ่งป่วยออทิสติกอายุประมาณ 12 ขวบ นั่งเฝ้าศพพ่ออยู่บริเวณท้ายรถ

เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายกับลูกชาย 2 คน คือ คนโต อายุประมาณ 12 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก และคนเล็ก อายุประมาณ 6-7 ขวบ เพิ่งเดินทางมาเช่าบ้านในเขตเทศบาลคลองวาฬ จากนั้น ผู้ตายพาลูกชายทั้ง 2 คน  ไปตกปลาบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเช่าประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อมาผู้ตายซึ่งมีโรคประจำตัวคือป่วยโรคไต ได้นอนเสียชีวิตอยู่ท้ายรถกระบะ ลูกชายคนเล็กได้เดินเท้ากลับบ้านเช่า ส่วนลูกชายคนโต ไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิต นึกว่าพ่อนอนหลับ ก็เลยนั่งเฝ้าพ่ออยู่ที่รถคันดังกล่าวเป็นเวลานานกว่า 3 วัน โดยไม่ได้กินข้าวเลย นอกจากของที่พกไป จนกระทั่งมีคนมาพบ

จากการสอบถามเจ้าของบ้านเช่า เปิดเผยว่า ผู้ตายมาเช่าบ้านได้ 2 วัน แล้วหายออกจากบ้านไปพร้อมลูก ต่อมาเห็นลูกชายคนเล็กของผู้ตายได้เดินกลับมาบ้านเช่า จึงได้ถามว่าพ่อไปไหน เด็กบอกว่าพ่อตายแล้วฟื้นแล้วก็ตายใหม่ ตอนแรกตนเองยังคิดว่าเด็กพูดเพ้อเจ้อไร้สาระ แต่หลังจากนั้นผ่านมาได้ 3 วัน ผู้ตายก็ยังไม่กลับมาบ้าน จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองวาฬและให้ลูกชายคนเล็กของผู้ตายพาไปหาพ่อที่จุดเกิดเหตุ ก็พบว่านอนเสียชีวิตขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณชายหาดแล้ว

ด้านแพทย์หญิงธิดาพร เปล่งอุดมกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จากการชันสูตรเบื้องต้นตอบได้เพียงสั้นๆ ว่าไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ต้องนำศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กู้ภัยนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบฯเพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด โดยในที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้ประสานญาติให้มารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และรับลูกของผู้เสียชีวิตไปอยู่กับญาติต่อไป