2 ผู้คุมเรือนจำกลางคลองเปรม แจ้งความ สน.ประชาชื่น หลังถูกผู้ต้องกักที่พ้นโทษแล้ว แต่พฤติกรรมยังเป็นอันตราย คลุ้มคลั่งอาละวาดแย่งกระบองฟาดหัวเจ็บสาหัส ขณะนำอาหารเข้าไปให้
ความคืบหน้ากรณีที่ เมื่อวานนี้ ( 28 พ.ค.68 ) ผู้คุมเรือนจำกลางคลองเปรม เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ประชาชื่น ว่าถูกผู้ต้องกักคดีความผิดทางเพศ ทำร้ายคนในครอบครัว ทำร้ายร่างกาย แย่งไม้กระบองของผู้คุมไป ระหว่างที่ผู้คุมนำอาหารเข้าไปให้ ก่อนจะใช้ไม้กระบองนั้นฟาดเข้าที่ใบหน้าและศีรษะของผู้คุมได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือนายสมบัติ และนายมิ่งทรัพย์ โดยนายสมบัติบาดเจ็บสาหัสศีรษะแตก บวมข้างหูซ้าย และผู้ต้องกักยังคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของและทรัพย์สินของเรือนจำได้รับความเสียหาย
ล่าสุดวันนี้ ( 29 พ.ค.68 ) ทีมข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ. สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก. สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่าจากที่ได้รับรายงานทราบว่า ผู้ต้องกักคนดังกล่าว เป็นคนสติไม่ดี ต้องรับประทานยาตลอด แต่ไม่ได้รับประทานยาตามกำหนด ทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด ซึ่งตอนนี้ตัวผู้ต้องกักก็ยังคงถูกกักตัวอยู่ภายในเรือนจำ
ส่วนผู้คุม 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บ พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ซึ่งหากอาการของผู้คุมทั้งคู่ดีขึ้นแล้ว พนักงานสอบสวนก็จะไปสอบปากคำผู้คุมก่อน จากนั้นจึงจะไปสอบปากคำผู้ต้องกักที่ก่อเหตุภายในเรือนจำ เนื่องจากขณะนี้ตัวผู้ต้องกักก็ยังคงอยู่ในสภาวะที่พูดจาไม่รู้เรื่อง ยังไม่สามารถให้ปากคำได้
ด้านพันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องกักคนนี้ ย้ายมาจากเรือนจำกลางคลองไผ่ ไม่ใช่นักโทษ แต่เป็นผู้ต้องกักกัน ตามโครงการ JSOC ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เพราะเคยก่อคดีความผิดทางเพศ ทำร้ายคนในครอบครัว เมื่อรับโทษจำคุกครบตามกำหนดโทษแล้ว คณะกรรมการเรือนจำเห็นว่า ยังมีพฤติกรรมไม่ดี อาจเป็นอันตราย จึงให้นำเข้าสู่การกักกันที่เรือนจำกลางคลองเปรม
โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ผู้คุม 2 นาย นำอาหารเข้าไปให้ผู้ต้องกัก แต่ผู้ต้องกักมีอายุน้อย และตัวโตกว่าผู้คุมมาก จึงกระแทกใส่ผู้คุมที่อายุ 58 ปี เมื่อผู้คุมล้มลง ผู้ก่อเหตุจึงแย่งกระบองไปฟาดใส่ศีรษะของผู้คุมจนไม้กระบองหัก ขณะนี้ยังต้องรอฟังผลการเอกซเรย์สมองผู้คุม
