หลานร้องขอความเป็นธรรม ยายถูกกรถชน แต่คู่กรณีอ้างว่าวูบลงไปเอง ทำให้หลานร้อนใจเดินทางมาร้องเพจสายไหม ต้องรอด
วันที่ 2 มิ.ย.68 หลานร้องขอความเป็นธรรม ยายถูกรถ จยย.เฉี่ยวชน แต่คนชนอ้างว่า "ยายวูบล้มไปเอง" หลานจึงมาตามหาคลิปจุดเกิดเหตุ จึงรู้ว่าถูก จยย.เฉี่ยวชนจนล้ม ไม่ได้วูบไปเองตามที่อ้าง จึงเข้าร้องเพจสานไหม ต้องรอด โดยในคลิป จะเห็นว่ามีคุณยาย กำลังเดินข้ามถนน ซึ่งไม่ใช่ทางม้าลาย หลังจากข้ามไปอีกฝั่ง มีรถกระบะมาให้คุณยายข้าม แต่เลนซ้ายสุดมีรถจักรยานยนต์ขี่มาด้วยความเร็ว แล้วชวนยายเข้าอย่างจัง ทำให้ล้มลงหมดสติทันที
นางสาวลลนา อายุ 34 ปี หลานสาว เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตนได้รับแจ้งว่าคุณยายประสบอุบัติเหตุ แต่ขณะนั้นไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ ยายอาจจะล้มเอง แต่อาการของคุณยายค่อนข้างร้ายแรง ตนและครอบครัวจึงรีบติดต่อโรงพยาบาล พบว่าอาการของคุณยายค่อนข้างสาหัส ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ 100% ได้
จากนั้นจึงประสานกู้ภัยที่รับตัวคุณยายส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งทางกู้ภัยก็รู้สึกเอะใจว่าคุณยายอาจจะไม่ได้ล้มเอง จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุให้ ก็พบว่ายายถูกรถจักรยานยนต์ ชนแต่กลับอ้างว่าล้มหมดสติเอง จึงรีบเข้าแจ้งความที่ สน.ร่มเกล้า ตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่สวมหมวกกันน็อก และคนขี่เล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาสอบปากคำ และตรวจหาสารเสพติด ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าตำรวจตั้งข้อหากับทางคู่กรณีอย่างไร ขณะนี้อาการของยาย มีเลือดออกในสมอง ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง ไหปลาร้าหัก เบื้องต้นผ่าตัดสมองแล้ว แต่เพราะอายุเยอะแล้ว จึงถือว่าเป็นวิกฤตที่ร้ายแรง ซึ่งตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหม ต้องรอด เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีคลิปหลักฐานชัดเจน ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธ และอ้างว่าคุณยายล้มเองกับพื้น จึงกลมกลืนหนีไป แต่ผู้เสียหายก็รู้สึกเอะใจด้วยร่องรอยบาดแผล และอาการค่อนข้างสาหัส กว่าการล้มหัวฟาดพื้นทั่วไป ซึ่งผู้เสียหายกังวลเรื่องของการที่รู้ตัวคู่กรณีช้า ระยะเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง จะมีผลต่อการตรวจสารเสพติดหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะประสาทผู้กำกับ สน. ร่มเกล้า ให้ช่วยเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบอย่างชัดเจนและยุติธรรม เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับคุณยาย