ผลชันสูตรยืนยัน! "ช้างป่า" เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากเหตุไฟฟ้าช็อต หลังพบการดัดแปลงรั้วป้องกันเป็นรั้วไฟฟ้าแรงสูงผิดกฎหมาย
วันที่ 2 มิถุนายน 2568 นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เปิดเผยผลการชันสูตรซากช้างป่าที่พบตายบริเวณสวนทุเรียน หมู่ 18 ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี โดยนายสิรวิชญ์ ทรัพย์เอนก นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ หัวหน้าฝ่ายแก้ไขปัญหาช้างป่าและสัตว์ป่า ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงาน
การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ช้างป่าที่ตายเป็นเพศเมีย มีติ่งขนาด 1 คู่ อายุประมาณ 15 ปี น้ำหนัก 2,900 กิโลกรัม ซากถูกพบห่างจากคูกั้นช้าง 500 เมตร บริเวณที่มีรั้วลวดไฟฟ้า เมื่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตรวจสอบสะพานไฟห่างจากซากช้าง 600 เมตร พบว่า สายลวดรั้วไฟฟ้าถูกสับเปลี่ยนการเชื่อมต่อจากตู้ควบคุมรั้วไฟฟ้าปลอดภัยมาเป็นไฟฟ้าแรงสูงแทน ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสัตว์ป่า
จากนั้นทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำเคลื่อนย้ายซากไปยังพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้นเพื่อชันสูตรโดยละเอียด ผลตรวจสอบพบรอยแผลไหม้บริเวณผิวหนังปลายลำงวงด้านล่าง ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ปลายใบหูทั้งสองข้างมีสีเยื่อเมือกซีด และพบปื้นเลือดตลอดแนวใบหู เลือดออกเป็นจุดบริเวณลิ้น ภายในช่องปากพบหนอนแมลงวันและไข่แมลงวัน คาดการณ์ว่าเสียชีวิตมาแล้ว 24-48 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สัตวแพทย์สรุปผลการชันสูตรว่า รอยโรคทั้งหมดบ่งชี้ว่าช้างป่าตายด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากกระแสไฟฟ้า (Electrocution) ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าที่พบว่า รั้วลวดไฟฟ้าถูกเชื่อมต่อกับไฟฟ้ากระแสสลับ 220 โวลต์
หลังจากการชันสูตรเสร็จสิ้น ทางอุทยานฯ ได้ดำเนินการฝังกลบซากช้างป่าตามหลักวิชาการ และจัดส่งเอกสารให้เจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่เปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าให้เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าต่อไป