ห้องข่าวภาคเที่ยง - เคสที่หนุ่มอุดรธานีไปทำงานในแคมป์คนงานไทยในอิสราเอล แล้วมีภาพผูกคอตาย สะเทือนใจญาติพี่น้อง ย่าร่ำไห้แทบขาดใจ ไม่เชื่อว่าหลานรักผูกคอตาย ไม่ได้มีปัญหาหรือแรงกดดันทางบ้าน
ย่าคาใจ หลานชายผูกคอเสียชีวิตที่อิสราเอล
ย่าเล่าให้ฟังว่า รักเหมือนลูก บางครั้งย่าแทนตัวว่าแม่ หลานชาย คือ นายอธิน สีเหลือง อายุ 27 ปี ชาวอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เดินทางไปทำงานเกษตรที่ประเทศอิสราเอลได้ 2 ปีแล้ว หลานเคยก็บอกว่า "เดี๋ยวผมจะกลับมา ย่าอย่าตาย ก่อนผมนะ" แต่พอรู้ข่าวว่าหลานเสียชีวิตกะทันหัน ย่าร้องไห้แทบขาดใจ ไม่เชื่อว่าหลานจะคิดสั้น ปัญหาทางบ้านทางครอบครัวก็ไม่มี ไม่เคยกดดัน
อยากให้ส่งศพหลานกลับมาบ้าน ย่าจะเอาบอนทาปาก เพราะตามความเชื่อคนอีสาน ถ้าเอาใบบอนทาปาก ดวงวิญญาณจะมาบอกความจริงทุกอย่าง ถ้ามีคนทำให้เขาตายเขาก็จะได้บอกย่า
ขณะที่พ่อตาเล่าว่าตอนรู้ข่าวกำลังนอนหลับได้ยินเสียงมีคนมาเรียกที่หู เสียงคุ้น ๆ คล้ายกับเสียงอาร์ม ร้องเรียกบอกว่า พ่อ พ่อ ก็สะดุ้งตื่น ไม่นานลูกสาวเขาก็วิ่งมาบอกว่าอาร์มผูกคอตายแล้ว ส่วนตัวพ่อคิดว่าสาเหตุอาจจะมีความขัดแย้งในที่ทำงาน ไม่เชื่อว่าลูกเขยจะผูกคอตายเอง
ส่งร่างตัวประกันแรงงานไทย กลับจากอิสราเอล
และวันนี้ ทางการอิสราเอลจะส่งศพตัวประกัน ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการถูกจับไปเป็นตัวประกัน ในสถานการณ์สู้รบ บริเวณฉนวนกาซา เดินทางกลับบ้านเกิด คือ นายณัฐพงษ์ ปินตา หนุ่มจากจังหวัดแพร่ที่ไปทำงานอยู่อิสราเอล คาดว่า จะมาถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 14.00 น. วันนี้ ซึ่งทางกระทรวงแรงงานได้ประสานความช่วยเหลือ ส่งศพกลับ และเร่งช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว และจ่ายสิทธิประโยชน์โดยเร็ว