กลิ่นขี้ไก่โชย กระทบท่องเที่ยวสมุย ให้เวลาอีก 2 เดือนต้องเลิก

กลิ่นขี้ไก่โชย กระทบท่องเที่ยวสมุย ให้เวลาอีก 2 เดือนต้องเลิก

View icon 243
วันที่ 11 มิ.ย. 2568 | 15.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สมุยไม่เอาฟาร์มไก่ “วิทยาลัยฯ ภาวนาโพธิคุณ” กลิ่นขี้ไก่โชย กระทบท่องเที่ยว ให้เวลาอีก 2 เดือน ให้ไก่ไข่รุ่นสุดท้ายหมด เพื่อให้จบแบบสง่างาม ขาดทุนสะสม 2 ปี ควรหันไปดำเนินกิจการที่พัก ที่มีในแผนอยู่เเล้ว

เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี สร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเกือบ 1 แสนล้านบาท/ปี แต่เวลานี้ คนในพื้นที่ โดยเฉพาะตำบลหน้าเมือง กำลังเผชิญกับมลพิษทางกลิ่น ไม่ใช่จากโรงงานอุตสาหกรรม แต่ลอยโชยคละคลุ้ง,kจากฟาร์มไก่ไข่ ของบริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ห่างจากชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวไม่มาก

“กลิ่นขี้ไก่ลอยไปถึงน้ำตกหน้าเมือง” ไกด์นำเที่ยวคนหนึ่งบอกกับทีมข่าว 7HD สะท้อนว่า หลายเดือนที่ผ่านมา มักได้ยินคำถามจากนักท่องเที่ยวว่า กลิ่นอะไร ยอมรับว่าอึดอัดใจ และจำใจต้องเบี่ยงเบนคำตอบ เพื่อไม่ให้กระทบการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เน้นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นายปณิธาน บุญสา ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุยยั่งยืน และรักษาการนายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนเกาะสมุย เห็นว่า วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ทำผิดนโยบาย แทนที่จะเน้นการศึกษาเป็นหลัก การเลี้ยงไก่ไข่นับหมื่นตัว กระทบการท่องเที่ยวรุนแรง ที่ผ่านมา ชาวบ้านเจรจากับผู้บริหารของวิทยาลัยฯ ตลอด แต่ไม่บรรลุเป้าหมาย ยืดเยื้อมานาน 6 เดือน ที่ชาวบ้านต้องทนกับกลิ่นขี้ไก่เหม็นฉุน

“พื้นที่หน้าเมืองมีนักท่องเที่ยว เข้ามาศึกษาการทำอาหารท้องถิ่น สุดท้ายต้องยกเลิก เพราะกลิ่นขี้ไก่ ขอถามกลับคำเดียวว่า เดือน ก.ค. คุณจะหยุดกิจการไหม” ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุยยั่งยืน กล่าว

ลั่น ! หยุดยื้อเปิดฟาร์มไก่ต่อ

นายณัฐดนัย หิมทอง หรืออดีตกำนันยศ เลขานุการนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ตอกย้ำว่า ชาวบ้านทุกคนพร้อมสนับสนุนวิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งนี้ แต่ในฐานะสถานศึกษา ไม่ใช่ฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ส่งกลิ่นลอยโชยไปทุกหลังคาเรือน พวกเราทนทรมานมาเป็นปี
 
นายณัฐดนัย บอกว่า ที่ผ่านมา ให้โอกาสกับวิทยาลัยฯ แห่งนี้มาหลายรอบ เพื่อให้ปรับปรุง แก้ไข เพราะเข้าใจว่า ธุรกิจลงทุนสูง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นผลกระทบระยะยาว จึงวิงวอน ร้องขอ เหมือนขอชีวิต ขอให้ลูกหลาน คนหน้าเมือง มีอากาศบริสุทธิ์กลับมาเหมือนเดิม ขอให้ชาวตำบลหน้าเมือง มีความสงบสุข ซึ่งความจริงแล้ว ชาวหน้าเมืองไม่ต้องการให้มีภาพประท้วงแบบนี้เกิดขึ้น แต่วันนี้เราเดือดร้อนจริง ๆ ขอวอนถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง โปรดเห็นใจ ให้คนหน้าเมืองกลับมาใช้ชีวิต แบบปกติสุข

“เราทนได้ อีก 2 เดือน เพื่อให้ไก่ไข่รุ่นสุดท้ายหมด เพื่อให้จบแบบสวย จบแบบสง่างาม แต่หากผู้บริหารของวิทยาลัยฯ คิดจะยื้อต่อ จะไปกันไม่ได้  เราจะอยู่กันลำบาก”

เทศบาลฯ สั่งปิดฟาร์มไก่ ฝ่าฝืนโทษหนัก

นายประเสริฐ รัตนวิชา ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ลงนามในคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ โดยบริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด ต้องหยุดกิจการ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป หลังจากให้โอกาสปรับปรุงระบบบำบัดสิ่งปฏิกูลให้ถูกหลักสุขาภิบาล ภายในวันที่ 17 มีนาคม 2568 แต่ท้ายที่สุด ไม่ปฏิบัติแล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดได้

ในหนังสือคำสั่ง ระบุชัดเจน หากฝ่าฝืนดำเนินกิจการต่อไป จะถือว่า ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทางด้านบริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ซึ่งนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รับเรื่องแล้ว หลังจากนี้จะรอผลการประเมินกลิ่นในสภาพอากาศจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และรอให้กระบวนการอุทธรณ์สิ้นสุด จึงดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้ โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พร้อมรับปากจะไปเจรจาให้วิทยาลัยฯ เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ

ผู้บริหารวิทยาลัยฯ ยอมรับขี้ไก่ส่งกลิ่นจริง

นายประเวศ ไทยประยูร กรรมการบริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ ยอมรับว่า ฟาร์มไก่ส่งกลิ่นเหม็นจริง แต่ที่ผ่านมา พยายามแก้ไขแล้ว ยังไม่สำเร็จ จุดเป็นปัญหา คือ สายพานลำเลียงขี้ไก่ ซึ่งด้านท้ายฟาร์มมีพื้นที่น้อย ห่างไม่ถึง 10 เมตร และมีกลิ่นจากน้ำใต้ดินดันขึ้นมา อีกจุดหนึ่ง คือ โรงหมักปุ๋ยอินทรีย์ มีกลิ่นลอยออกทางท่อระบายด้านบน ซึ่งจะแก้ไขโดยสร้างโรงครอบทั้งหมด เพื่อป้องกันกลิ่นออกไป
 
2 ปี บริษัทฯ ขาดทุนสะสม 9 แสนบาท


ทีมข่าว 7HD ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยงบกำไรขาดทุน ปี 2565 เเละ 2566 มีรายได้รวมไม่ถึง 1 เเสนบาทต่อปี เเละขาดทุนสะสมมากกว่า 9 เเสนบาท ส่วนปี 2567 ยังไม่ปรากฎข้อมูล

เมื่อฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ไม่ตอบโจทย์ทั้งในแง่รายได้ และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกับชุมชน ถึงเวลาเเล้วหรือไม่ ที่วิทยาลัยฯ จะหันไปดำเนินกิจการที่พัก ซึ่งมีแผนอยู่เเล้ว น่าจะตอบโจทย์บริบทพื้นที่ของเกาะสมุย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ตราบในที่ยังฝืนเดินหน้าต่อ ย่อมหนีไม่พ้นถูกชาวบ้านลุกฮือต้าน กลายเป็นความขัดเเย้ง ทั้งที่ธุรกิจฟาร์มไก่ไข่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของการมีสถานศึกษาแห่งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง