196 วัน ชัยชนะ “คนสมุย” ทวงคืน “อากาศสะอาด” จากฟาร์มไก่

196 วัน ชัยชนะ “คนสมุย” ทวงคืน “อากาศสะอาด” จากฟาร์มไก่

View icon 1.3K
วันที่ 19 ต.ค. 2568 | 15.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
196 วัน ชัยชนะ “คนสมุย” ทวงคืน “อากาศสะอาด” จากฟาร์มไก่ เมื่อสิทธิในการมี “อากาศสะอาด” ถูกลิดรอน นั่นจึงทำให้ชาวชุมชน ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องลุกขึ้นสู้ ทวงคืนสิทธินั้น

         สิทธิในการมีอากาศสะอาดหายใจ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างที่มนุษย์พึงมีพึงได้

         ทว่า สิทธิเหล่านั้น กลับถูกพรากไปร่วม 196 วัน ที่บริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด สร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ขนาด 50,000 ตัว ท่ามกลางชุมชน ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนจากมูลไก่ สร้างความเดือดร้อน รำคาญ จนชาวบ้านแทบอยู่อาศัยกันไม่ได้ ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่แห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เทศบาลนครเกาะสมุย เล่มที่ 1 เลขที่ 46 ปี 2568 เมื่อวันหนึ่ง ชาวบ้านลุกขึ้นมา สูดดมอากาศไม่บริสุทธิ์ จึงรวมตัวกันร้องเรียนไปยังเทศบาลนครเกาะสมุย ในฐานะผู้ออกใบอนุญาต

68f4a10199add3.15739616.jpg

          อากาศพิษ ทำลายท่องเที่ยว “สมุย”

          ชาวบ้านรายหนึ่ง พักอาศัยในบ้าน ห่างจากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ เพียง 2 กิโลเมตร เขามีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ ทุกครั้งที่พานักท่องเที่ยวมาทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มักจะถูกตั้งคำถามจากผู้มาเยือนเสมอว่า “นี่เป็นกลิ่นอะไร” ซึ่งต้องเลี่ยงตอบความจริง เพื่อไม่ให้กระทบการท่องเที่ยว “กลุ่มนักท่องเที่ยวถามว่า กลิ่นอะไร เราตอบตรง ๆ ไม่ได้ เพราะจะทำลายการท่องเที่ยว อย่าลืมว่า นักท่องเที่ยวที่มาส่วนใหญ่เน้นเรื่องสุขภาพ หากเขารู้ว่า กลิ่นมาจากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ไม่ส่งผลดี ตอนนี้เริ่มมีผลกระทบแล้ว มีบางกลุ่มยกเลิกจองทัวร์ เพราะกลิ่นขี้ไก่ จากเดิม 100 คน เหลือเพียง 20-30 คน”

68f4a1000f7a01.24436770.jpg
       
         ปณิธาน บุญสา ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุยยั่งยืน ในฐานะรักษาการนายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนเกาะสมุย สะท้อนว่า ชุมชนตำบลหน้าเมือง ยังมีความเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากหาดเฉวง ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้น กลิ่นขี้ไก่ที่รุนแรง จึงกระทบการท่องเที่ยวอย่างมาก ที่ผ่านมา เราคุยกันมาหลายรอบแล้วกับทางบริษัทฯ และวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ซึ่งเป็นที่ตั้ง ถึงแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยฯ เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เพื่อการตั้งบริษัทฯ แล้วนำอุตสาหกรรมฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่เข้ามา  เพราะการเลี้ยงไก่ไข่ ขนาด 50,000 ตัว เกิดขึ้นไม่ได้บนเกาะสมุย ที่เป็นเมืองการท่องเที่ยว “คุยกันทุกครั้ง คุยกันทุกรอบ ยืดเยื้อมา ผมไม่ได้มองว่า กฎหมายจะช่วยอะไร แต่มองว่าความเป็นจริงที่ต้องทำให้ชัด ทั้งที่มีผลกระทบการท่องเที่ยวขนาดไหน  ตั้งคำถามว่า คุณจบได้ไหม”

68f4a256273b74.35052526.jpg

            วิงวอนเหมือนขอชีวิต ขอ “อากาศบริสุทธิ์” กลับมา

         ไม่เพียงธุรกิจท่องเที่ยวเท่านั้น แต่สุขภาพของชาวบ้านโดยรอบรัศมีฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ เข้าขั้นย่ำแย่ โดยเฉพาะช่วงค่ำ เช้า และเย็น กลิ่นจะรุนแรง จนออกมานั่งสูดอากาศหายใจนอกบ้านไม่ได้ มิหนำซ้ำยังมีแมลงวันบินตอมจำนวนมาก

68f4a100dd2033.99966920.jpg

         ณัฐพงศ์ โอชารส เป็นหนึ่งในนั้น เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ใฝ่ฝันจะมาสร้างบ้านเช่าในที่ดินของตนเอง ซึ่งติดกับฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ แต่ไม่คิดว่า วันหนึ่งที่ดินผืนนี้กลับต้องทิ้งร้าง เพราะกลิ่นขี้ไก่ และน้ำจากการบำบัดของฟาร์ม ไหลซึมออกมา ซึ่งเขายังบอกว่า ผู้บริหารของฟาร์ม เคยติดต่อมาขอซื้อที่ดิน แต่ตนเองไม่ขาย “มีกลิ่น เสียงจากเครื่องเป่าลม ออกมาตลอดเวลา และน้ำเสีย ผมคิดว่า จะสร้างบ้านเช่า คงจะทำไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาปลูกมะพร้าว ผมเดือดร้อนมาก ไม่สามารถทำอะไรได้เลย” ณัฐพงศ์ ระบายความอัดอัน

         ณัฐดนัย หิมทอง อดีตกำนัน ยืนยันอีกเสียงว่า ละแวกใกล้เคียง ได้รับผลกระทบทั้งหมด ยิ่งวันใดฟ้าครึ้ม อากาศอับ กลิ่นยิ่งรุนแรง พวกเราทรมานมาร่วม 1 ปี แม้เข้าใจว่า บริษัทฯ ใช้ต้นทุนสูงในการสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ แต่ผลกระทบระยะยาวเกิดขึ้นกับชาวบ้าน และบริษัทฯ เคยรับปากจะปรับปรุง แต่ไม่สำเร็จ 

68f4a1e088dfb6.46402363.jpg

             “เราเข้าใจว่า ต้นทุนการลงทุนสูง  แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นผลกระทบระยะยาว ซึ่งผมเชื่อว่า  ตลอดชีวิตของพวกเรา  หากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่แห่งนี้ คงอยู่อย่างนี้ จะไม่ดี ฉะนั้นผมขออนุญาตวิงวอน ร้องขอเหมือนกับขอชีวิต ขอให้ลูกหลาน ขอให้คนตำบลหน้าเมือง มีอากาศที่บริสุทธิ์ กลับมาเหมือนเดิม  ขอให้ชาวตำบลหน้าเมือง มีความสงบสุข”  

68f4a25572f533.08198252.jpg

         อดีตกำนัน ย้ำว่า หากบริษัทฯ คิดจะยื้อต่อ อย่าทำเลย โปรดสงสารพวกเรา เพราะหากบริษัทฯ ฝืนทำต่อ บริษัทฯ กับคนตำบลหน้าเมือง จะไปกันไม่ได้ เราจะอยู่ด้วยกันลำบาก ส่วนตัวอยากเห็นคนเกาะสมุยมีความรัก ความสมัครสมานสามัคคี ไม่อยากเห็นอะไรแตกแยกแบบนี้

          “สุเทพ” ขอสู้ ปรับปรุงฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่

          การลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องของชาวบ้าน ทำให้ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” กรรมการบริหาร บริษัท วิสาหกิจชุมชนภาวนาโพธิคุณ จำกัด มิอาจต้านทานได้ ในที่สุด จึงเปิดหอประชุมในวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ให้ชาวบ้านเข้าเจรจาและยื่นข้อเรียกร้อง

          นายสุเทพ ยอมรับว่า การกำจัดกลิ่นขี้ไก่ ไม่ดีจริง แต่ถ้าชาวบ้านจะยื่นคำขาด ไม่ให้บริษัทฯ เลี้ยง เช่นนั้นไม่ได้ ยืนยันว่า จะเลี้ยง ถ้าไม่มีกลิ่นขี้ไก่ จะเลี้ยง ถ้าไม่ทำให้คนตาแดง จะเลี้ยง ถ้าไม่ทำให้คนหายใจไม่ออก และหากทำให้คนเกาะสมุยไม่มีความสุข ยินดียกเลิก 

68f4a35357bfe7.91102449.jpg

       “ถ้าวิทยาลัยฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ ดำรงอยู่ต่อไป แล้วทำให้คนเกาะสมุยไม่มีความสุข ผมเลิก ได้ยินไหม ผมเลิกวิทยาลัยฯเลย นี่คือความจริงใจ อย่าว่าแต่ฟาร์มไก่เลย แม้แต่วิทยาลัยฯ ผมก็เลิกได้ ผมไม่ใช่คนดื้อด้าน ไม่มีปัญหา ถ้าคนเกาะสมุย บอกว่า ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข ให้ไปที่อื่น ผมก็ไป เลิก ! "
ทว่า การเลิกฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อนายสุเทพ สู้ ! กับการแก้ปัญหาแล้ว

           นายสุเทพ บอกว่า หลังจากสิ้นสุดรุ่นไก่ จะปิดกิจการชั่วคราว แล้วหาวิศวกรเก่ง ๆ มาปรับปรุง เพราะรู้แล้วว่า หากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ยังมีกลิ่นเพียงนิดเดียว ชาวบ้านจะเดือดร้อน และหากยังเกิดปัญหาอีก จะเลิกกิจการถาวร
ผลตรวจวัดบ่งชี้ กลิ่นขี้ไก่ สูงเกินค่ามาตรฐาน

           ข้อพิสูจน์ที่จะยืนยันได้ว่า กลิ่นขี้ไก่เป็นมลพิษ สร้างความเดือดร้อนรำคาญจริง จะต้องมีข้อมูลบ่งชี้ทางวิทยาศาสตร์ ทีมข่าวช่อง 7HD จึงประสานไปยังอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กระทั่งเมื่อวันที่ 26-28 สิงหาคม 2568 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์อนามัย ที่ 11 นครศรีธรรมราช และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมใช้เครื่องมือตรวจวัดกลิ่นรบกวน จากเครื่องมือตรวจวัดกลิ่นในบรรยากาศภาคสนาม (Nasal Ranger)  การบันทึกข้อมูลการประเมินกลิ่นภาคสนาม และการตรวจวัดระดับความเข้มข้นกลิ่น โดยใช้จมูกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Nose)

68f4a3521c1f07.08180238.jpg

          จุดตรวจที่ 1 ชุมชนบ้านสวนทุเรียน หมู่ที่ 2 ตำบลหน้าเมือง จุดตรวจที่ 2 บ้านของชาวบ้าน ในหมู่ที่ 2 ห่าง 300 เมตร จุดตรวจที่ 3 บ้านของชาวบ้าน ห่าง 600 เมตร และจุดที่ 4 แคมป์คนงานก่อสร้าง ห่าง 300 เมตร

          ผลสรุป ปรากฎว่า ระดับความเข้มข้นกลิ่นในชุมชนบ้านสวนทุเรียน หมู่ที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สุด พบมีค่าระดับความเข้มข้นกลิ่น อยู่ในช่วง 2-7 หน่วยกลิ่น (Dilution to Thresold ; D/T) ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ตามคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบกลิ่นรบกวนที่เกิดจากการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือส่งผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่โดยปกติของประชาชน

          ประกอบกับผลการเฝ้าระวังกลิ่นภาคสนาม (ใช้เครื่องมือตรวจวัดกลิ่นรบกวน จากเครื่องมือตรวจวัดกลิ่นในบรรยากาศภาคสนาม ) ในบริเวณโดยรอบสถานประกอบกิจการฯ ทั้ง 4 จุดเฝ้าระวัง มีระดับกลิ่นประเมินได้ส่วนใหญ่อยู่ระดับ 3 บ่งชี้ว่า เป็นกลิ่นน่ารังเกียจ และทำให้บุคคลใด ๆ มีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการสูดดม เป็นกลิ่นที่มีแนวโน้มก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย ระหว่างการสัมผัส ในระยะสั้นและยาว

68f4a351c46862.35843026.jpg
         
         ขณะที่การลงพื้นที่บันทึกข้อมูลประเมินกับชาวบ้าน พบส่วนใหญ่อยู่ระดับ 5 บ่งชี้ว่ากลิ่นที่แรงมาก จนกระทั่งทำให้ผู้สัมผัสทนไม่ได้ ไม่ว่าจะสัมผัสเวลาใด ๆ และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพโดยง่าย

          ข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับผลการตรวจวัดกลิ่น โดยเครื่องจมูกอิเล็กทรอนิกส์ ที่พบแนวโน้มระดับกลิ่นสูงในช่วงเช้า มีค่าระดับความเข้มข้นกลิ่นสูงสุด เท่ากับ 21.33 หน่วยกลิ่น นั่นแสดงว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่แห่งนี้ ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นรบกวน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และส่งผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่ โดยปกติสุขของประชาชน ถือเป็นเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข

68f4a451747935.51001300.jpg

         ข้อมูลทั้งหมด สอดคล้องกับข้อมูลที่ชาวบ้านร้องเรียนและเคลื่อนไหว โดยเทศบาลนครเกาะสมุย นำข้อมูลดังกล่าว ประกอบการพิจารณา ท้ายที่สุด มีบทสรุป ไม่ต่อใบอนุญาตประกอบกิจการฯ นับตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการฯ เดิม หมดอายุ นับเป็นชัยชนะของชาวบ้าน ตำบลหน้าเมือง กับ 196 วัน แห่งการต่อสู้ นำเสนอข้อเท็จจริง ตีแผ่เรื่องราว อ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า การเกิดขึ้นของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ มีผลกระทบจริง อย่างปฏิเสธไม่ได้

68f4a452269f47.68953705.jpg

         หลังจากนี้ พวกเขาจะมี “อากาศสะอาด” ให้สูดดม คืนกลับชีวิตปกติสุข เพราะ “อากาศสะอาด” เป็นสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรมี ในการดำรงชีวิตของมนุษย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง