โดยสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังคงน่าเป็นห่วง ข้อมูลจากผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ได้ออกมาชี้แจงว่าการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) โรคซิฟิลิส โรคหนองใน พบสูงขึ้นมากในกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสและโรคหนองในมี อัตราเพิ่มขึ้นสูงถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับ 3-4 ปีที่ผ่านมา
หากต้องการรู้ว่าเราติดเชื้อ HIV หรือไม่ สามารถทำได้โดยการตรวจเลือด ซึ่งการติดเชื้อ HIV ไม่ได้หมายถึงการเป็นโรคเอดส์เสมอไป เพียงแต่หากปล่อยไว้จะก่อให้เกิดโรคเอดส์ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้ ซึ่งหากตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ ยิ่งช่วยให้มีทางเลือกในการรักษา และป้องกันไม่ให้ตนเองแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้
คนไทยมีสิทธิ์ตรวจเอชไอวี ฟรีปีละ 2 ครั้ง
หากมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ สามารถตรวจและรู้ผลภายในวันเดียว หากผลตรวจว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้ทันที ฟรี ครอบคลุมทุกสิทธิ์การรักษา (ยังไม่รวมค่าบริการผู้ป่วยนอก)
คนไทยสามารถตรวจโรคเอดส์ได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง เพียงเช็กสิทธิจากโรงพยาบาลทุกแห่งภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย สถานบริการที่กำหนด และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกแห่ง เพียงยื่นบัตรประจำตัวประชาชน ประกอบไปด้วย
-โรงพยาบาลภายใต้หลักประกันสุขภาพ
-ศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค
-คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย
-คลินิกชุมชนสีลม
-มูลนิธีเพื่อนพนักงานบริการ
-คลินิก ฮักษา กลางเวียง จ.เชียงใหม่
-คลินิกรักษ์เพื่อน
-ศูนย์บริการสาธารณสุข
-สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง
-มูลนิธิเอ็มพลัส
-ศูนย์บริการสุขภาพชุมชนมูลนิธิเอ็มเฟรนด์ จ.อุดรธานี
-แคร์แมท จ.เชียงใหม่
-แอ๊คทีม จ.ขอนแก่น
ใครบ้างควรตรวจ HIV
-ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อ HIV หรือไม่ จากพฤติกรรมเสี่ยงด้านเรื่องเพศ
-ผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ (ใช้ในบางประเทศ) จึงต้องการข้อมูลสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของร่างกาย
-ผู้ที่วางแผนจะมีครอบครัว หรือต้องการตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยต่อทั้งแม่และลูก
-ผู้ที่สงสัยว่าคู่นอนของตนจะมีพฤติกรรมเสี่ยง
-บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่
-ทารกที่ติดเชื้อ HIV จากมารดา
-ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาสารเสพติดร่วมกันกับผู้อื่น
-ผู้ที่มีอาการป่วย เช่น ป่วยเป็นวัณโรค
-ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
หากผลตรวจ HIV เป็น + ต้องทำอย่างไร ?
ควรตรวจยืนยันผลที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา เข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสให้เร็วขึ้น แต่หากผลตรวจยืนยันเป็นลบ จะได้รับคำปรึกษาเพื่อการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 0 2590 3291 สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
ขอบคุณข้อมูล กรมควบคุมโรค

