สองผัวเมีย กระโดดสะพานจบชีวิต หนีความผิดคดีพ่อข่มขืนลูก ขณะที่เมียดับ ผัวสาหัส

สองผัวเมีย กระโดดสะพานจบชีวิต หนีความผิดคดีพ่อข่มขืนลูก ขณะที่เมียดับ ผัวสาหัส

View icon 1.1K
วันที่ 13 มิ.ย. 2568 | 19.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สองผัวเมีย กระโดดสะพานจบชีวิต หนีความผิดคดีพ่อข่มขืนลูก ขณะที่เมียดับ ผัวสาหัส ล่าสุด แม่ค้า เผย ก่อนทั้งสองจะกระโดด ได้ชวนลูกสาวคนเล็กกระโดดสะพานด้วย แต่น้องกลัวเจ็บจึงไม่เอาด้วย

จากกรณี เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 12 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ มีชายหญิง 2 คน ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน มานั่งดื่มสุราขาว ก่อนจะกระโดดสะพานข้ามน้ำตกห้วยจันทร์ ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เบื้องต้นทราบชื่อ ชายหญิง 2 คน คือ น.ส.จิรากรณ์ อายุ 36 ปี ผู้เป็นภรรยา เสียชีวิต ขณะที่ นายสัจจา อายุ 38 ปี  ผู้เป็นสามี อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ นำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิต โดยมูลเหตุคาดว่า น่าจะมาจาก นายสัจจา สามี ได้ก่อเหตุข่มขืนลูกในใส้ อายุ 14 ปี และอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะดำเนินการไปควบคุมตัว จึงตัดสินใจกระโดดสะพานหนีความผิด ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว นั้น

ล่าสุดวันนี้ (13 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นสะพานเหล็ก ข้ามน้ำตกห้วยจันทร์ ที่นักท่องเที่ยวใช้ข้ามไปนั่งเล่นน้ำตกกันโดยมีความสูงจากพื้นน้ำตกประมาณ 9 เมตร หรือประมาณความสูงเท่าตึก 3 ชั้น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ชรบ. และชาวบ้าน พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ โดย นายธีรพงษ์ จันทะเสน อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่ ชรบ. เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบบ้านน้ำตกห้วยจันทร์ วันเกิดเหตุวันนั้นตนได้รับแจ้งว่ามีคนกระโดดสะพานข้ามน้ำตกห้วยจันทร์ ตนจึงรีบไปตรวจสอบ พอมาถึงจุดเกิดเหตุตนเห็นสองผัวเมียยืนอยู่ตรงสะพาน ตนจึงถามสองผัวเมียว่า เจอคนที่จะกระโดดสะพานไหม คนที่เป็นสามีตอบตนว่า เห็นวิ่งไปอีกฝั่งของสะพาน ตนเลยวิ่งไปดูรอบน้ำตกแต่ก็ไม่เห็นว่ามีใครกระโดดสะพาน ตนจึงวนกลับมาตรงจุดเดิมที่สะพานอีกครั้ง จังหวะนั้นตนเห็นทั้งสองผัวเมียขึ้นไปนั่งอยู่บนขอบที่กั้นสะพาน หันหน้าเข้ามาข้างใน หันหลังไปยังน้ำตก ตนจึงเดินเข้ามาใกล้ๆจะถึงตัว 2 ผัวเมียแล้ว สองผัวเมียมองเห็นตน กับชุดคณะกรรมการหมู่บ้านที่กำลังเดินมา จังหวะนั้นฝ่ายสามีก็โอบกอดภรรยาแล้วดึงกันตกลงสะพานทันที

ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตนและชุดคณะกรรมการหมู่บ้าน จะลาดตระเวนดูความปลอดภัย บริเวณน้ำตกห้วยจันทร์ทุกวัน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงน้ำทำให้นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาเที่ยวน้ำตก ตนและคณะกรรมการหมู่บ้านจะสลับเปลี่ยนเวรคอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ด้าน นางสาวหทัย ริทเธอร์ อายุ 52 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ค้าที่ขายของอยู่ในน้ำตกห้วยจันทร์ เมื่อวานเวลาประมาณ 18.00 น. มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นลูกสาวคนเล็กของสามีภรรยาที่กระโดดสะพาน ชื่อ น้องบี (นามสมมุติ) ได้วิ่งมาบอกตนที่ร้านว่ายายไปส่งหนูกลับบ้านหน่อย ตนจึงถาม น้องบี ว่า พ่อแม่หนูล่ะไปไหน น้องบีตอบตนว่าพ่อกับแม่หนูกระโดดน้ำตายแล้ว ตนจึงรีบโทรไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและกำนัน พอเจ้าหน้าที่มาถึงตนจึงเดินตามเข้ามาดูที่สะพานข้ามน้ำตกห้วยจันทร์ พอตนมาถึงตรงสะพานก็ยังเห็นทั้งสองผัวเมียยืนอยู่ 

ตนจึงถาม น้องบี ว่าสองคนนั้นใช่พ่อกับแม่หนูไม น้องบี จึงตอบว่าใช่ ตนเลยเกิดความโมโหต่อว่า น้องบี ว่าเป็นเด็กขี้โกหก ตนจึงปล่อยให้น้องบีอยู่กับพ่อแม่ และตนก็เดินกลับมาที่ร้าน พอตนกลับมาถึงร้านก็มีคนมาบอกว่าสองผัวเมียนั้นกระโดดสะพานไปแล้ว ทั้งนี้ น้องบี ได้เล่าให้ตนฟังว่า ก่อนที่ พ่อแม่จะกระโดดสะพาน ได้ชวน น้องบี กระโดดสะพานด้วย แต่ น้องบี บอกกับแม่ว่ากลัวเจ็บไม่กล้ากระโดด แม่เลยบอกน้องบีเหมือนเป็นสั่งตายว่า ให้น้องบี ดูหน้าแม่ไว้เป็นครั้งสุดท้ายนะลูก แล้วหลังจากนี้หนูจะไม่ได้เห็นหน้าแม่อีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ที่เกิดเหตุผู้สื่อข่าวพบกับขวดเหล้าขาวที่กินหมดแล้ว และยาพารา อยู่บริเวณโขดหินใกล้กับสะพานที่เกิดเหตุ คาดว่าสองสามีภรรยา หน้าจะมากินเหล้าตรงจุดนี้ ก่อนจะไปกระโดดสะพานดังกล่าว นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้เจอกับหมวกสีแดง ซึ่งเป็นหมวกของ นส. จิรากรณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ตาย อีกด้วย จากการสอบถามชาวบ้านแถวนั้นเห็นว่า ตอนที่สองสามีภรรยากำลังเดินลงไปที่น้ำตกนั้น ในมือได้ถือขวดเหล้าขาว และร้องไห้  ส่วนภรรยาได้สวมหมวก และปิดหน้าปิดตา คล้ายไม่อยากให้ใครเห็นหน้า