กฟภ.ตราด เผยจังหวัดเกาะกง ยังใช้ไฟฟ้าจากไทย พร้อมตัดไฟทันทีหากรัฐบาลมีคำสั่ง
วันนี้ (16 มิ.ย.68) นายโสภณ ยนจอหอ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตราด เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ทำสัญญาขายไฟฟ้าให้ประเทศกัมพูชา โดยกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน เป็นผู้บริหารจัดการ ซึ่งจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา มีพื้นที่ติดกับอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด ทำสัญญาซื้อขายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2540 ระยะเวลา 10 ปี จำนวน 6 เมกะวัตต์ เมื่อครบสัญญา 10 ปี จะต่อสัญญาปีต่อปีเรื่อยมา กระทั่งปี 2556 กัมพูชาขอซื้อไฟฟ้าเพิ่มจาก 6 เมกะวัตต์ เป็น 10 เมกะวัตต์ เนื่องจากการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมาขึ้น และยังมีการซื้อขายไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ จนถึงปัจจุบัน
ผู้จัดการ กฟภ. จังหวัดตราด กล่าวต่อว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ยังไม่มีคำสั่งจากหน่วยเหนือให้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด กัมพูชายังคงใช้ไฟฟ้าตามปกติ ส่งกระแสไฟฟ้าจากสถานีอำเภอคลองใหญ่ มีมิเตอร์วัดค่าไฟฟ้าติดตั้งอยู่หน้าด่านชายแดนบ้านหาดเล็ก ค่าเฉลี่ยใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณเดือนละ 6 – 7 เมกะวัตต์ (ใช้ไฟฟ้าใกล้เคียงอำเภอเกาะกูด มีบ้านเรือน 2,085 หลัง) และการไฟฟ้ามีรายได้เดือนละประมาณ 15 ล้านบาท
“หากมีคำสั่งพร้อมที่จะตัดกระแสไฟฟ้าตัดทันที ไม่ได้กังวลเรื่องรายได้แต่อย่างใด โดยหน่วยที่ตัดกระแสไฟฟ้าจะอยู่ที่จังหวัดชลบุรี” ผู้จัดการ กฟภ. จังหวัดตราด กล่าวยืนยัน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าไฟฟ้าส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ที่โรงงานภายในเขตพัฒนาเศรฐกิจพิเศษเกาะกง จ.เกาะกง กัมพูชา หากมีความต้องการใช้กำลังไฟฟ้าเกิน 10 เมกะวัตต์ ทางอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน ต้องซื้อไฟฟ้าเพิ่มจากจีนที่เข้ามาลงทุนสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า และชาวบ้านในกัมพูชาก็ต้องใช้กระแสไฟฟ้าจากจีนตามสัญญาระหว่างประเทศของกัมพูชา กับจีน
ปัจจุบันกัมพูชาขอซื้อกระแสไฟฟ้าจากไทยเพิ่มอีก 1 วงจร จากเดิมมี 1 วงจร โดยให้เหตุผลว่าในเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกงมีโรงงานเพิ่มขึ้น จึงมีความต้องการใช้กระแสไฟฟ้ามากขึ้น โดยตั้งแต่ปลายปี 67 มีอัตราค่าใช้ไฟฟ้าจากไทยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีความต้องการกระแสไฟฟ้าจากไทยมากขึ้นในห้วงฤดูแล้ง เพราะเขื่อนผลิตไฟฟ้าของจีนขาดแคลนน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้า
