หญิงวัย 52 บุกเดี่ยวชิงทอง 1 บาท สารภาพ วางแผนมา 3 เดือนก่อนก่อเหตุ โดยดูมาจากละคร

หญิงวัย 52 บุกเดี่ยวชิงทอง 1 บาท สารภาพ วางแผนมา 3 เดือนก่อนก่อเหตุ โดยดูมาจากละคร

View icon 831
วันที่ 16 มิ.ย. 2568 | 15.01 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หญิงวัย 52 บุกเดี่ยวชิงทอง ได้สร้อยคอทองคำไป 1 บาท หนีได้ไม่ถึง 24 ชม. ตำรวจตามรวบถึงบ้าน สารภาพ วางแผนมา 3 เดือนก่อนก่อเหตุ โดยดูมาจากละคร หลังกลับถึงบ้าน คิดว่ารอดแล้ว รีบเอาทองฝังดิน สุดท้าย ถูกตามจับ เผย ทำเพราะมีหนี้สินเกือบล้าน

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณัฎฐชัยเขียวจันทร์ สว.(สอบสวน)สภ.ชุมแพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคุมตัว นางศรีอัมพร อายุ 52 ปี ต.นาจาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในร้านทอง ริมถนนราษฎร์บำรุง ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ภายหลังชุดสืบสวนสามารถแกะรอยติดตามตัวได้ภายในบ้านพักที่อำเภอสีชมพูเมื่อช่วงค่ำวานนี้ พร้อมกับสร้อยสร้อยคอทองคำที่ขโมยมาน้ำหนัก 1 บาทจำนวนหนึ่งเส้น ถูกฝังดินข้างบ้านโดยหอด้วยผ้าอ้อมเด็กและใส่ถุงพลาสติกอีกหนึ่งชั้นฝั่งเอาไว้เพื่อรอให้เรื่องเงียบแล้วจะนำมาขาย

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวน 3 จุด ประกอบด้วยภายในร้านทอง จุดที่เปลี่ยนเสื้อผ้า จุดที่จอดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเอาไว้แล้วหลบหนีไปยังอำเภอสีชมพู ระยะทาง 40 กิโลเมตร โดยบรรยากาศช่วงที่อยู่ในร้านทองผู้ก่อเหตุพยายามจะขอโทษเจ้าของร้านแต่ทางตำรวจเร่งให้ดำเนินการตามขั้นตอนด้วยความรวดเร็วเนื่องจากมีชาวบ้านที่เห็นช่วงทำแผนมายืนออกันอยู่ที่หน้าร้าน จึงรีบพาผู้ก่อเหตุไปยังจุดที่สองทันที ก่อนจะควบคุมตัวมาที่สภ. ชุมแพ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนส่งฟ้องศาลศาลจ.ชุมแพฝากขังตามขั้นตอนต่อไป

นางศรีอัมพร ผู้ต้องหา สารภาพว่า ตนเองวางแผนจะวิ่งราวทองมา 3 เดือนแล้ว โดยตั้งใจจะก่อเหตุที่ร้านทองร้านนี้ เพราะเป็นร้านเดียวที่เปิดประตูไว้ และมีคนขายเป็นผู้หญิงสองคน ส่วนร้านอื่นๆประตูปิดอย่างดี กลัวว่าถ้าก่อเหตุแล้วจะออกไม่ได้ และที่ตัดสินใจลงมือในวันดังกล่าว เนื่องจาก มีปัญหาเรื่องเงินหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ ธกส. ซึ่งกู้ยืมสะสมทบกันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นหนี้กว่า 800,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีหนี้สินอื่นๆที่หยิบยืมจากคนรู้จัก รวมรวมแล้วก็เกือบล้าน และเดือนนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ย ธกส.ประมาณ 40,000 บาท จึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น โดยก่อนจะก่อเหตุนั้น เดินวนอยู่ 3 รอบ เพื่อหาโอกาสเหมาะ พอจังหวะไม่มีคน จึงเข้าไปทำทีขอซื้อสร้อยคอทองคำ และตั้งใจหยิบเอาไป แค่เพียงเส้นเดียวเท่านั้น ก่อนจะหยิบกระป๋อง ซึ่งภายในบรรจุกระดาษเอาไว้จุดไฟ เพื่อให้คนขายตกใจ แต่จุดแล้วไฟไม่ติด พอวิ่งออกจากร้านก็ไปเปลี่ยนชุด แต่ไม่คิดว่าจะมีกล้องวงจรปิดเยอะขนาดนี้และไม่ได้คิดมาก่อนในเรื่องของกล้อง ในช่วงที่วิ่งมาคิดแต่ว่าถอดชุดให้เร็วที่สุดเปลี่ยนชุดให้เป็นคนใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อจะหลบหนี พอไปถึงรถตัวเองขับรถกลับมาถึงบ้านที่อำเภอสีชมพู ในใจก็คิดว่ารอดแล้ว จึงเอาผ้าอ้อมหลานสาวห่อกับทองใส่ถุงอีกชั้น ฝังดินเอาไว้ข้างบ้าน รอให้เรื่องเงียบแล้วจะนำออกมาขาย แต่ก็มาถูกตำรวจตามจับได้ถึงที่บ้าน ยอมรับว่าทึ่งในฝีมือของตำรวจที่สามารถตามจับได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้ต้องหา บอกอีกว่า การวางแผนวิ่งราวทองที่วางแผนมาสามเดือนนั้น ส่วนหนึ่งได้มาจากในละคร และตามข่าวต่างๆ จึงคิดหาวิธีวางแผนทำยังไงจะไม่ให้ตัวเองถูกจับหากก่อเหตุ แต่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ทุกมุมเมือง ซึ่งก็ยอมรับผิด แต่ทำไป เพราะความจำเป็นเรื่องหนี้สินที่จะต้องหามาจ่าย ก่อนหน้านี้ไม่รู้จะหาเงินด้วยวิธีไหนถึงขั้นคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย เพื่อให้หนี้หมดไปพร้อมกับชีวิต แต่ก็ไม่กล้าทำจึงหาวิธีอื่นด้วยการก่อเหตุวิ่งราวทองครั้งนี้ขึ้น

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก็ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนคุมตัวส่งฟ้องศาลฝากขังดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม”

ด้านพ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ กล่าวภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหารายดังกล่าวว่า ในทางคดีนั้นถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ภายใน 24 ชั่วโมงพร้อมกับของกลาง ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพ และให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ในเรื่องของการประกันตัวนั้นก็จะทำการพิจารณาเนื่องจากผู้ต้องหาให้ความร่วมมือและมีความจำเป็นในเรื่องหนี้สินแต่เลือกวิธีที่ผิดกฎหมาย ก็จะให้ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาในเรื่องการประกันตัวว่าจะคัดค้านหรือไม่ ก่อนส่งศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง