ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นักวิชาการหลายคน แนะรัฐบาลยกเลิก MOU 43 ที่ไทยเคยทำกับกัมพูชา และยืนยันเส้นแบ่งเขตตามสันปันน้ำ ซึ่งเป็นหลักสากลมากกว่า
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน แถลงข่าวกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศกัมพูชา
นายปานเทพ ออกข้อชี้แนะ 7 ข้อ เรียกร้องให้รัฐบาล เปิดเผยเอกสารลงนาม ระหว่างไทยกัมพูชาให้ประชาชนรับรู้ ซึ่งหากไม่มีการลงนาม ก็ขอให้เปิดเผยว่า ไม่ได้ลงนาม ขอให้เปลี่ยนแปลงตัวประธาน JBC ที่ต้องเป็นคนที่มีความรู้ มีไหวพริบรู้ทันกัมพูชา เรียกร้องให้ยกเลิก MOU43 ทั้งหมด และให้ไปตกลงกันใหม่ เช่นเดียวกับยกเลิก MOU44
ไทยต้องแถลงประท้วง และยืนยัน 4 จุดพิพาทว่า เป็นของไทย ไม่ใช่แถลงจุดยืนเพียงไม่ไปศาลโลกอย่างเดียว และวอนรัฐบาลอย่าแทรกแซงกองทัพในการตัดสินใจ
หากรัฐบาล ยังเกรงใจกัมพูชาก็ควรสนับสนุนให้กองทัพ ประกาศกฎอัยการศึก และสุดท้าย MOU 43, MOU 44 ยังไม่เคยมีการลงพระปรมาภิไธยจากพระมหากษัตริย์ ถือว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นให้นำ MOU 2 ฉบับ เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา เพื่อยกเลิก
เช่นเดียวกับ พลโท พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ตามหลักการแบ่งเขตแล้ว ต้องแบ่งตามเส้นสันปันน้ำ จากที่สูงลงที่ต่ำ ซึ่งจากแผนที่ไทยอยู่บนเขตแดนที่สูงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนกัมพูชาอยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นหลักการตามมาตรฐานการแบ่งเขตแดนสากล
นายไพศาล พืชมงคล นักวิชาการด้านกฎหมาย กล่าวว่า รัฐบาลมีท่าทีอ่อนข้อให้กับรัฐบาลกัมพูชามากเกินไป ดังนั้น เวลานี้ นายกรัฐมนตรีต้องมีท่าทีชัดเจนว่า ไม่รับอำนาจศาลโลก และต้องไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางเมตรเดียว ส่วนที่นายฮุนเซนประกาศจะปิดทุกด่านนั้น มองเป็นการข่มขู่เท่านั้น เพราะกลัวประชาชนเดือดร้อน
