ดร.ปณิธาน เตือนฝ่ายการเมืองต้องทำหน้าที่รุกรับ สกัด ตัดตอนข่าวสารของกัมพูชา

ดร.ปณิธาน เตือนฝ่ายการเมืองต้องทำหน้าที่รุกรับ สกัด ตัดตอนข่าวสารของกัมพูชา

View icon 116
วันที่ 16 มิ.ย. 2568 | 17.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นธรรมดาต้องเจอนโยบายสามง่ามของกัมพูชา ดร.ปณิธาน เตือนฝ่ายการเมืองต้องทำหน้าที่ แถลงข่าวต้องไว รุกรับ สกัด ตัดตอนข่าวสารของกัมพูชาที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยให้ดีขึ้น

ภายหลังการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันนี้ (16 มิ.ย.68) รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความดังนี้

1.กัมพูชามีนโยบาย "สามง่าม" เชิงรุกกับไทยมานานแล้ว ดังนั้นการที่เขาชิงแถลงข่าวและให้ข่าวเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เขาได้เปรียบนั้น เป็นเรื่องธรรมดาในความผิดปกติของความสัมพันธ์ในปัจจุบัน

2. ในการประชุม JBC ที่มีความสำคัญขนาดนี้ ซึ่งไม่ได้ประชุมกันมานานนับสิบปี สิ่งที่กัมพูชาทำนั้น คาดเดาได้ไม่ยากและป้องกันได้พอสมควร ถ้าเราเข้าใจ endgame ของเขาหรือตระหนักถึง "นโยบายสามง่าม" ของกัมพูชาอย่างแท้จริง

3. ข้าราชการประจำไม่ว่าจะกระทรวงไหน ๆ หรือแม้แต่ในมหาวิทยาลัย จะทำตามและอ้างอิงกฏระเบียบมากมาย "ในกรอบ" ที่ชัดเจนและปลอดภัย กล่าวคือ ตั้งรับไว้ก่อนจะดีกว่าดำเนินการเชิงรุกมาก ทั้งปลอดภัยกับตัวเองด้วย (จากประสบการณ์ส่วนตัวกว่า 30 ปีน ท่านอื่นอาจจะเห็นต่าง และบางยุคเราก็เคยเห็นข้าราชการทำงานเชิงรุกหรือนำธงมาบ้าง)

4. ในกรณีประชุม JBC ในครั้งนี้ ถ้าจะให้ทันเหลี่ยมทันเกมเขมร หรือทำให้เขาลดราวาศอกลงบ้าง โดยเฉพาะที่ให้ข่าวยั่วยุคนไทยแทบจะรายวันเช่นนี้ ฝ่ายการเมืองที่มาจากประชาชน คือ ผู้บริหารของรัฐบาลที่ทำเนียบ ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดูแลสำนักโฆษกฯ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักข่าวของรัฐ และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องให้ข่าวหรือนำธงแถลงข่าวในทุกเรื่อง ต้องให้ข่าวทั้งล่วงหน้า (นอกรอบหรือทางข้างก็ได้) ระหว่างการประชุมหรือเกิดเหตุการณ์  (อย่างเป็นทางการ) หลังการประชุมหรือหลังเหตุการณ์ และอย่างต่อเนื่องทั้งในภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ แม้จะถนัดหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีกว่านี้

5. อันที่จริงแล้วในการประชุมสภาความมั่นคงเมื่อเร็ว ๆ นี้ น่าจะได้มีการกำหนดแนวทางการสื่อสารดังกล่าวข้างต้นไว้แล้ว แต่สมช.หรือรัฐบาล อาจจะคลาดเคลื่อนไปหน่อยและช้าไปนิด คือ กำหนดให้ กต.และ กห. ร่วมกันจัดระบบสื่อสารให้มีเอกภาพโดยให้: 1) โฆษกรัฐบาล 2) โฆษก กต. 3) โฆษก กห. และ 4) โฆษก ทบ. ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและให้ข่าวอย่างเป็นเอกภาพ ถ้าจะให้ดี รัฐบาล หรือ สมช.จะต้องกำหนดให้ชัดว่า ให้ฝ่ายโฆษกรัฐบาล โดยกำกับของฝ่ายการเมือง เป็นหลักเป็นคนนำธงสื่อสาร เพื่อรุกรับ สกัด และตัดตอนการสื่อสารของกัมพูชาที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยให้ดีขึ้น

6. แต่ถ้าจะให้ถูกใจคนไทยจริง ๆ ก็จะต้องให้กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 เป็นหลักในการสื่อสารแทน แต่ฝ่ายทหารหรือฝ่ายความมั่นคง ก็จะต้องเสียเวลาไปกับความเหลวไหลของทีมสื่อสารเขมร เพราะต้องแบ่งพลังไปทำสงครามโวหาร หรือสงครามน้ำลาย แทนที่จะสร้างเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่เพื่อผลักดันทหารกัมพูชาอย่างจริงจัง ให้หันปากกระบอกปืนไปทางอื่น และถอนกำลังออกไปจากพื้นที่หรือจุดสูงข่มที่รุกเข้ามาเพื่อเตรียมการรบกับเราอย่างจริงจัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง