ชั้นเชิงเจรจา JBC ของ "ทีมไทยแลนด์"

View icon 110
วันที่ 17 มิ.ย. 2568 | 06.12 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - หลังมีการเผยแพร่จุดยืนเกี่ยวกับการประชุม JBC จากกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้นักวิชาการหลายฝ่าย ออกมาแสดงทัศนะในมุมมองต่าง  เริ่มกันที่มุมมองเชิงบวก ซึ่งมีนักวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เห็นว่าชั้นเชิงการเจรจาของ "ทีมไทยแลนด์" ไม่ธรรมดา

ชั้นเชิงเจรจา JBC ของ "ทีมไทยแลนด์"
นายภัทรพงษ์ แสงไกร อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์จุดสังเกตสำคัญ ที่ทำให้ ทีมไทยแลนด์ ได้เปรียบในการประชุม JBC หนนี้ คือ ประธานกรรมาธิการฯ ฝ่ายไทย ได้ย้ำท่าทีไทยที่ตอบโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา และบันทึกแนบไว้ในเอกสารผลลัพธ์ หรือ Agreed Minutes ของการประชุม

นักวิชาการ มองว่า นี่เป็นนัยสำคัญของการประชุม เพราะ Agreed Minutes เป็นความตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา และมีผลผูกพันทั้ง 2 ฝ่าย

การที่ไทยสามารถนำท่าทีของฝ่ายไทย แนบเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกการประชุม เท่ากับว่า "กัมพูชายอมรับ และผูกพันตามเนื้อหาในเอกสารแนบ"

ไม่ว่าจะเป็นกรณีกัมพูชายอมรับว่าทหารไทยทำตามหลักป้องกันประเทศ หรือ กัมพูชารับรู้ว่าไทยผิดหวังที่ไม่เจรจาเรื่องพื้นที่ 4 จุด รวมถึงกัมพูชารับรู้ว่าได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟ้องคดีต่อศาลโลก ว่าชอบธรรมหรือไม่

กระตุ้นรัฐบาลห้ามเสียดินแดนแม้แต่นิดเดียว
ด้าน นายไพศาล พืชมงคล นักวิชาการด้านกฎหมาย มองว่ารัฐบาลอ่อนข้อให้กัมพูชามากเกินไป ดังนั้น นายกฯ ต้องมีท่าทีชัดเจนว่าไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก และต้องไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางเมตรเดียว

"ปานเทพ" จี้เปิดวิดีโอบันทึกประชุม JBC
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน แถลงข่าวถึงการประชุม JBC เช่นกัน โดยมีข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล 7 ข้อ

ซึ่ง 1 ใน 7 ข้อที่สำคัญที่สุด คือ ยกเลิก MOU 2543 และ 2544 เพราะเห็นว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับ ทำให้ไทยเสียเปรียบทั้งพื้นที่ทางบก และทางทะเล

อีกข้อเรียกร้องที่น่าสนใจ คือ ให้เปิดเผยเอกสารการลงนามไทย-กัมพูชา ในการประชุม JBC ถ้าไม่มีการลงนาม ให้ยืนยัน หรือเปิดเผยภาพ-เสียงวิดีโอบันทึกการประชุม เพื่อพิสูจน์ว่าได้ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง