นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ ไปติดตามการดำเนินโครงการประตูระบายน้ำบ้านป่าซ่านพร้อมอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงรับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี 2553 ตามที่ราษฎรหมู่ที่ 3 บ้านป่าซ่าน ตำบลบ้านพร้าว อำเภอนครไทย ขอพระราชทานแหล่งน้ำเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ขาดแคลนน้ำทำการเกษตรในหน้าแล้ง เนื่องจากไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำ และประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน สำนักงาน กปร. และกรมชลประทาน สนองพระราชดำริก่อสร้างประตูระบายน้ำ อาคารระบายน้ำล้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ท่อระบายน้ำ ท่อลอดถนน คลองส่งน้ำ U-SHAPE และคลองส่งน้ำขนาดก้นคลอง แล้วเสร็จในปี 2565 ปัจจุบัน สามารถส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรในฤดูฝน 3,021 ไร่ หน้าแล้ง 1,664 ไร่ และเพื่อการอุปโภคบริโภคให้ราษฎรบ้านพร้าว ตำบลบ้านพร้าว 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน รวม 430 ครัวเรือน
สำหรับบ้านพร้าวใช้น้ำปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ข้าว, ข้าวโพด และพริก มีโครงการชลประทานพิษณุโลก ช่วยบริหารจัดการน้ำแบบเกษตรกรมีส่วนร่วม โดยร่วมให้ข้อคิด วางแผน และติดตามการบริหารจัดการชลประทาน มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำประตูระบายน้ำบ้านป่าซ่านพร้อมอาคารประกอบ มีสมาชิก 155 คน
ช่วงบ่าย ไปติดตามการดำเนินโครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวัดโบสถ์ สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง และจัดหาน้ำสนับสนุนโครงการชลประทานพิษณุโลก และโครงการเจ้าพระยาใหญ่ เป็นโครงการอ่างเก็บน้ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วย 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนปิดช่องเขาต่ำ, เขื่อนแควน้อย และเขื่อนสันตะเคียน ความยาว รวม 2,591 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยบรรเทาอุทกภัยที่เคยเกิดในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ และอำเภอเมือง ประมาณ 75,000 ไร่ และส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก 155,166 ไร่ ทั้งยังเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและประปา 8 แห่ง รวม 4,350 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรม เสริมระบบชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน เป็นแหล่งขยายพันธุ์สัตว์น้ำ เกิดอาชีพด้านการประมง รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด และเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย