เปิดมติกรรมการบริหาร “ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา” ยืนยันร่วมรัฐบาล ส่วน “รทสช.” ยังไม่แจ้งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวานนี้ (19มิ.ย.68) เวลา 18.20 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค สส. และคณะกรรมการดำเนินการของพรรค ระบุว่า ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อีกทั้งทางหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้พรรค ชทพ. เชื่อว่า อธิปไตยและความมั่นคงของประเทศไทยคือ สิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น เราไม่ควรที่จะตกอยู่ในสภาวะสุมเสี่ยง สมาชิกพรรคเห็นว่า เราควรจะสนับสนุนให้สร้างความมั่นคงและให้รัฐบาลสามารถสร้างความมั่นคงทางอธิปไตยให้กับประเทศไทย เนื่องจากเราไม่อยากให้ความสุ่มเสี่ยงเกิดขึ้นเกี่ยวกับอธิปไตยของประเทศในขณะนี้
และ สมาชิกพรรคได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีแนวทางอย่างไร เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วครบถ้วนแล้ว จะนำมาเสนอให้กับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป
กรณีคลิปเสียงสนทนาของนายกรัฐมนตรี และ อดีตผู้นำกัมพูชานั้น นายวราวุธ กล่าวว่า จากการที่ฟังเป็นการพูดคุยกัน ระหว่างบุคคล 2 คน ที่ฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่า เป็นการพูดคุยระหว่างอาหลาน แต่ที่สำคัญคือ การที่คลิปนี้ออกมา ตนก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าจุดประสงค์ของการปล่อยคลิปนี้มาคืออะไร แต่ก่อให้เกิดความวุ่นวายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความมั่นคงของอธิปไตยของประเทศเราที่อยู่ตามตะเข็บชายแดน
ส่วนที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาร่วมกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และ มีความเห็นเป็นฉันทามติร่วมกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1) พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันที่จะดำรงสถานะพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศที่เผชิญอยู่ได้รับการคลี่คลายอย่างต่อเนื่องต่อไป
2) พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลทบทวนบทบาท และท่าทีต่อปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา อย่างจริงจัง เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย เกียรติภูมิ และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย และประชาชนไทย โดยจะต้องแสดงออกให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
3) พรรคประชาธิปัตย์ตระหนักถึง เสียงสะท้อนของประชาชนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกมิติ รัฐบาลจะต้องใส่ใจ ยอมรับความคิดเห็นที่หลากหลาย พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติ สามารถฟันฝ่าทุกปัญหาอุปสรรคนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้
4) พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ในระบบรัฐสภา ไม่สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ ที่นอกเหนือกติกาประชาธิปไตย และบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อวานนี้เช่นกัน แต่ยังไม่มีถ้อยแถลงมติที่ประชุมอย่างเป็นทางการเผยแพร่ออกมา โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวเพียงสั้น ๆ กับสื่อมวลชนหลังการประชุม ว่า ”นำเรื่องไปคุยกับนายกฯ ก่อน“