ใครรับผิดชอบ ? สาวร้อง สธ. โรงพยาบาลผ่าตัดพลาดทำท่อไตรั่ว ปัสสาวะไหลไม่หยุด แต่ทางหมอที่ผ่าตัดมัดมือชก ให้เซ็นยินยอมปกปิดความลับ
วันนี้ ( 20 มิ.ย.68 ) มูลนิธิเป็นหนึ่ง พาผู้เสียหายจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข หลังเข้ารับการผ่าตัด ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ทำให้ท่อไตรั่ว ส่งผลให้มีน้ำปัสสาวะไหลรั่วอยู่ตลอดเวลา จนต้องใส่ผ้าอ้อมมานานหลายเดือน หนำซ้ำทางโรงพยาบาลยังขอให้เซ็นเอกสารลงนามปกปิดความผิดพลาดของแพทย์ จนถึงตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการเยียวยา
นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 เธอได้เข้าตรวจสุขภาพที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา หมอวินิจฉัย ว่า เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ จึงได้ให้ยามากินรักษาอาการเบื้องต้น แต่อาการไม่ดีขึ้น มีประจำเดือนผิดปกติ และมีชิ้นเนื้อหลุดออกมาจากช่องคลอด ซึ่งแพทย์ที่คลินิกแนะนำให้เธอไปผ่าตัดแบบส่องกล้อง กระทั่งวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ได้เข้ารับการผ่าตัดกับแพทย์หญิงคนดังกล่าว ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยใช้สิทธิประกันสุขภาพส่วนตัว
หลังผ่าตัดเสร็จ เริ่มมีอาการผิดปกติ ปวดท้อง และมีไข้ขึ้นอย่างหนัก กระทั่งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ อาการยิ่งแย่ลงกว่าเดิมหลังพบน้ำใสๆ ไหลออกจากช่องคลอดตลอดเวลา ทำให้ต้องใส่ผ้าอ้อมตลดเวลา ตนจึงกลับไปหาหมอ เพื่อสอบถามอาการ ปรากฏได้รับคำตอบคือ เป็นผลข้างเคียงจากการผ่าตัด และแพทย์ยังสรุปหาสาเหตุไม่ได้
เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เธอตัดสินใจย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง หลังทำการ ซีทีสแกน พบว่าไตข้างขวาบวม ท่อไตข้างขวาเสียหาย มีรอยรั่วจากการผ่าตัดครั้งแรก จึงแจ้งเรื่องกลับไปยังโรงพยาบาลต้นเหตุ โดยแพทย์ยอมรับว่า เป็นอุบัติเหตุในการผ่าตัด และยื่นข้อเสนอว่าจะผ่าตัดแก้ไขท่อไตให้ โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดีมาร่วมผ่าตัดให้ด้วย และจะไม่คิดค่าใช้จ่าย ต่อมาวันที่ 8 มีนาคม เธอได้รับการผ่าตัดตามข้อเสนอ แม้อาการจะเริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่ท่อไตจะกลับมาตีบ 5% ในอนาคต และจะต้องติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
โดยได้ติดต่อกลับไปหาโรงพยาบาลต้นเหตุ 2 ครั้งแรก เป็นการตกลงทางวาจา แต่ครั้งที่ 3 เมื่อต้องตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร ปรากฏว่าในสัญญากลับไม่มีการระบุเรื่องการเยียวยาที่มีโอกาสเกิดขึ้น 5% ในอนาคต และให้เธอเซ็นยินยอมที่จะไม่ดำเนินคดีและไม่เปิดเผยข้อมูล เรื่อความผิดพลาดของแพทย์ที่ผ่าตัด เธอมองว่าเป็นการมัดมือชก จึงไม่เซ็นเอกสารยินยอม ซึ่งเธอได้ร้องขอค่าเยียวยาทดแทน ที่ต้องหยุดรักษาตัวไปนานกว่า 3 เดือน แต่ทางโรงพยาบาลยังนิ่งเฉย แจ้งเพียงให้รอผลจากการประชุมแค่นั้น
เบื้องต้น นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ประสานไปยังสาธารณสุขประจำจังหวัดฉะเชิงเทราให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงพยาบาลและคลินิกดังกล่าว ว่ามีการรายงานผลการรักษาและเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจริง ก็จะต้องรับผิดชอบทั้งสินไหมทดแทน และการดูแลผู้ป่วยให้หายพ้นจากอาการที่เป็นอยู่ และสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ