ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวาน ตำรวจยังทำอะไรกรณีคลิปเสียงระหว่าง นายกรัฐมนตรี และ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ไม่ได้ เพราะยังไม่มีการสั่งการ ไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ ปรากฏวันนี้มีคนมาแจ้งความแล้ว
และคน ๆ นั้นคือ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) ที่นำหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนา และบทสนทนาที่เกิดจากการถอดถ้อยคำในคลิป รวมถึงหลักฐานอื่น ๆ ไปมอบให้ตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็น "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ที่ออกมาการันตีเอง ทั้งเรื่องที่เป็นคนส่งคลิปให้กับข้าราชการการเมืองไป 80 คน และเรื่องที่ยืนยันว่าไม่ได้มีแค่คลิป 9 นาที แต่ยังมีคลิปความยาว 17 นาที ด้วย ก่อนจะปล่อยคลิปฉบับเต็มออกมา
นายสมคิดยืนยันว่า ที่มาแจ้งความไม่ได้แจ้งนายกรัฐมนตรีทราบ เป็นการมาในฐานะส่วนตัว ซึ่งการที่ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ปล่อยคลิปฉบับเต็มออกมา ก็เพราะต้องการสร้างความได้เปรียบทางการเมือง แล้วทำให้นายกรัฐมนตรี รวมถึงประเทศไทย เสียเกียรติ เสียชื่อเสียง จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไทย
ด้าน ผู้บัญชาการ สอท. ยืนยันในข้อกฎหมาย แม้จะเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร ก็สามารถดำเนินคดีได้ เช่นเดียวกับที่เคยดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซนเตอร์ในต่างประเทศ หรือที่มีชาวกัมพูชาสร้างข่าวปลอมโจมตีไทย ก็สามารถขอศาลฯ ออกหมายจับได้เช่นกัน
เพียงแต่กระบวนการดำเนินคดีนอกราชอาณาจักร เมื่อศาลฯ ออกหมายจับแล้ว ต้องประสานส่งหมายจับผ่าน "ตำรวจสากล" แจ้งกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนั้น ๆ
ส่วนในฝั่งไทยเมื่อได้หมายจับแล้ว ก็ต้องนำหมายจับเข้าระบบ ซึ่งจะส่งผลให้ในอนาคต หาก "สมเด็จฯ ฮุน เซน" เดินทางเข้าไทย ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้ต้องหาคดีอื่น ๆ