พฤติกรรมอดีตผู้นำกัมพูชา ไม่เหมาะสม ไทยต้องตอบโต้ไม่หวังให้บานปลาย

พฤติกรรมอดีตผู้นำกัมพูชา ไม่เหมาะสม ไทยต้องตอบโต้ไม่หวังให้บานปลาย

View icon 150
วันที่ 22 มิ.ย. 2568 | 11.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รองโฆษกเพื่อไทย ชี้พฤติกรรมอดีตผู้นำกัมพูชา ไม่เหมาะสม ไทยจึงต้องมีมาตรการตอบโต้ ตอนนี้อยู่ระหว่างการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ย้ำรัฐบาลภายใต้การนำของเพื่อไทย จะยืนหยัดทำงานเพื่อประชาชนอย่างสุดความสามารถ

วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงความละเอียดอ่อนของสถานการณ์เป็นอย่างดี และได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบภายใต้กรอบทางการทูต และความมั่นคงโดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และความสงบเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน สำหรับการแสดงออกของอดีตผู้นำกัมพูชาถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศความร่วมมือทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศ

รัฐบาลจึงต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ที่ชัดเจน และโดยมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การควบคุมการเปิด - ปิด จุดผ่านแดน ไทย - กัมพูชาตามกรอบมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยื่นหนังสือประท้วงไปยังสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยและเชิญเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา มาหารือข้อราชการต่าง ๆ และตอนนี้อยู่ระหว่างการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต รวมถึงควบคุมนักท่องเที่ยวและแรงงานไทยในฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะธุรกิจ กาสิโน การพนันออนไลน์ และเพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้าสินค้าบางรายการ เช่น มันสำปะหลัง จัดลำดับตามความเหมาะสมเพื่อรักษาดุลยภาพของทั้งสองประเทศ และเพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในระยะยาว

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เน้นย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้มีความประสงค์ที่จะให้สถานการณ์บานปลายแต่อย่างใด แต่จำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพื่อที่จะปกป้องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศไทย และในช่วงเวลานี้อยากใช้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ ส่งต่อข้อมูลด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงและถูกเผยแพร่ตามช่องทางโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศโดยที่ไม่เจตนาแล้วเราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

“รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะยังคงยืนหยัดทำงานเพื่อประชาชนอย่างสุดความสามารถ รวมทั้งจะยังรักษาความต่อเนื่องในการทำงานของฝ่ายบริหารต่อไป และจะไม่ปล่อยให้ข่าวลือหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเป็นอุปสรรคในการทำงานกับประชาชน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง