วันนี้ (25 มิ.ย. 68) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เดินทางจาก จ.นครปฐม เข้าร้องทุกข์ให้ช่วยขอความเป็นธรรมกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สืบเนื่องจากตั้งครรภ์ 9 เดือนใกล้คลอด น้ำคร่ำแตกปวดท้องจะคลอดลูกที่โรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่ง ใน จ.นครปฐม พยาบาลบอกยังไม่พร้อมให้รอนอนตะแคงหนีบขาไว้ก่อน ภายหลังลูกคลอดขาดอากาศหายใจสำลักขี้เทา พอย้ายไปรักษาตัวโรงพยาบาลแห่งที่ 2 เป็นเวลา 5 วัน แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา
น.ส.น้อย บอกว่า เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรก และใช้สิทธิประกันสังคม โดยวันที่ 18 มิ.ย. 68 เวลาประมาณ 02.00 น. ปวดท้องจะคลอดเลยไปที่โรงพยาบาล ระหว่างนอนรอคลอดตนรู้สึกปวดท้องถี่ขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเวลา 08.00 น. ปากมดลูกเปิด 8 เซนติเมตร มีน้ำคร่ำและเลือดไหลออกมา เด็กพร้อมจะออก มีอาการปวดท้องมากและรู้สึกว่ามีหัวเด็กกำลังจะโผล่ออกมา ตนร้องขอพยาบาลให้ทำคลอดหรือผ่าคลอดก็ได้ แต่พยาบาลบอกให้รอก่อน และให้นอนตะแคงข้างเอาขาไขว้ไว้ข้างหลังอั้นไว้ก่อน เพราะพยาบาลต้องไปดูอีกเคสที่เข้ามาใหม่มีภาวะความดันต่ำ
ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. เศษ มีพยาบาลมาดูและให้เปลี่ยนท่านอนหงายและให้ถ่างขา ลูกก็ได้คลอดออกมาทันที ผลปรากฏเด็กเกิดภาวะขาดออกซิเจน สำลักน้ำคร่ำขี้เทา จากนั้นทางโรงพยาบาลดังกล่าวที่ทำคลอดได้ส่งต่อไปรักษาโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ใน จ.นครปฐม โดยใช้เวลาส่งตัวนานถึง 3 ชั่วโมง เด็กรักษาอยู่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 18 - 23 มิ.ย.68 เป็นเวลา 5 วัน ต่อมาเด็กได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 68 เวลา 10.47 น. ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตคือ “ภาวะสำลักขี้เทา” ทำให้ยายและแม่โศกเศร้าเสียใจมาก และติดใจสาเหตุการให้บริการของโรงพยาบาล ปล่อยให้ปวดท้องนานเกินไปจนน้ำคร่ำแตกแล้ว แต่ยังไม่ยอมให้คลอด ทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียลูกที่อุ้มท้องมา 9 เดือน จึงอยากให้โรงพยาบาลปรับปรุงการให้บริการ ดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยให้มากกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวใครอีก และต้องการความเป็นธรรม จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว
อย่างไรก็ตาม หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน นพ.วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต เพื่อช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวที่สูญเสียบุตรคนแรก โดยมูลนิธิปวีณาฯจะติดตามผลต่อไป