ฮุน เซน ลั่น หากไทยไม่เปลี่ยนนายกฯ สงครามเกิดแน่

View icon 1.1K
วันที่ 27 มิ.ย. 2568 | 07.13 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - อีกประเด็นร้อน ๆ ต้องจับตา กระแสข่าวสะพัดว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน จะเดินหน้าแฉต่อแบบจัดหนัก ไม่ต่างระเบิด ลูกที่ 2 ขว้างใส่ "พ่อ" หลังระเบิด ลูกแรก ขว้างใส่ลูกสาว หนาวสะท้านไปแล้ว โดยมีรายงานข่าว รอบนี้ระบุตัวชี้ เป้าไว้ชัดเจนว่าจะแฉ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

ขณะที่เมื่อวาน สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังข่มขู่ไทย ไม่เลิก ว่าจะเกิดสงครามยื้ดยือ หากไทยไม่เปลี่ยนผู้นำสงครามเกิดแน่

ประเด็นยั่วยุนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้พูดระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศไทย และพบปะกับผู้ประสบภัยจากจังหวัดพระวิหาร

สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวว่า การเมืองของประเทศไทย ได้นำไปสู่ความขัดแย้ง กับกัมพูชา แนะประชาชน ปลูกพืชผลทางการเกษตร ตนเอง ไม่กลัวอะไร เพราะไม่มีหนี้อะไร ที่ต้องชดใช้ให้แก่ไทย

นอกจากนี้ ยังแนะประชาชนชาวกัมพูชา ให้ขุดสนามเพลาะ หลบภัย เพื่อป้องกันตนเอง เพื่อเอาชีวิตรอดในภาวะสงคราม โดยให้เหตุผลว่า หากไม่มีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลของไทย ในเร็ววันนี้ ความตึงเครียดแนวชายแดน อาจลุกลาม กลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ ยืดเยื้อยาวนาน และรุนแรง กว่าเหตุปะทะเมื่อปี 2554  

เมื่อคืนข่าวลือสะพัด และสื่อฯ กัมพูชา อย่าง พนมเปญโพสต์ มีรายงานว่า วันนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน เตรียมเปิดโปงแผนการและความลับสุดยอดที่ นายทักษิณ ชินวัตร เคยพูดให้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้ฟัดโดยอ้างถึงแผนที่จะเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศไทย โดยจะส่งข้อความพิเศษนี้ไปยังประชาชนชาวไทยวันนี้

ต้องจับตาดูว่า คำข่มขู่ของ สมเด็จฯ ฮุน เซน รอบนี้ จะแฉต่อแบบจัดหนัก จัดเต็ม เปิดโปงความลับเรื่องอะไร ? นอกจากจะสร้างแรงกระเพื่อม สั่นคลอนสถานะนายกฯ แพทองธาร ในฐานผู้นำรัฐบาลไทย หรือไม่ หากยังเป็นการชี้ ชะตา นายทักษิณ ชินวัตร จะยังคงอยู่รอด บนผืนแผ่นดินไทยได้ต่อไป หรือไม่  

พอมีประเด็นจั่วหัวออกมาแบบนี้ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในแกนนำ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ไม่รอช้า ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์ข้อความไม่ยาวมาก ระบุว่า "รัฐบาลควรท้า ฮุน เซน ไปเลย แน่จริง ให้เปิดหลักฐานเรื่องทักษิณ อย่ากลัวมัน"

อีกคน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความว่า "ฮุนเซนเดินแผนสแกมเมอร์ ปั่นทุกวัน เขาหวังให้เราเต้น เรายิ่งต้องนิ่ง เขาหวังให้เราโกรธ เรายิ่งต้องครองสติ"