ขับ หลวงตาสุจ ออกจากวัด

View icon 376
วันที่ 30 มิ.ย. 2568 | 11.05 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - กรณี "หลวงตาสุจ" อายุ 60 ปี พระนักเทศน์ ที่ก่อนหน้านี้ออกมาไลฟ์ด่าว่าชาวสุรินทร์ ไม่เอาชาวสุรินทร์ถึงขั้นให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนสุรินทร์ให้หมด จน "สมเด็จฯ ฮุนเซน" ออกมาบอก พร้อมจะให้สัญชาติ ให้ที่อาศัย และจะดูแลเป็นอย่างดี ล่าสุด ต้นสังกัดมีมติขับออกจากวัดแล้ว

เรื่องของ พระมหานรินธร ปสนฺโน หรือ หลวงตาสุจ อายุ 60 ปี พระนักเทศน์สายฮาชื่อดังแห่งอีสานใต้ ซึ่งตอนนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าโคกคฤห์ ตำบลป่าชัน อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ไลฟ์ผ่านเฟซต์บุ๊กของตัวเอง ด้วยการด่าชาวจังหวัดสุรินทร์ เป็นภาษากัมพูชา แปลเป็นภาษาไทยสรุปรวบยอด ได้ใจความว่า

"อาตมาพูดภาษาเขมรสุรินทร์ อาตมาไม่ใช่เผ่าพันธุ์สุรินทร์ อาตมาเกียจนักไอ้พวกเผ่าพันธุ์สุรินทร์ มีปัญหา ตรงปราสาทตาเมือนธม ยิงเลย ยิงให้สุรินทร์แตกกระจายให้หมด คนสุรินทร์ตายหมด อาตมาสบายใจอาตมาไม่มีจิตใจให้เผ่าสุรินทร์อาตมา ไม่เอาด้วยกับพวกเผ่าสุรินทร์ เพราะอาตมาไม่ใช่คนสุรินทร์ อาตมาคนบุรีรัมย์"

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ชาวจังหวัดสุรินทร์และชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ต่างไม่พอใจที่ หลวงตาสุจ ใช้วาจาที่ไม่สุภาพและดูเหมือนจะไปเข้าข้างฝั่งรัฐบาลกัมพูชา มากกว่าประเทศไทย ทั้งบ้านเกิดของหลวงตาสุจ อยู่ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ผ่านมาของหลวงตาสุจ เอาสิ่งของที่คนไทยบริจาคไปมอบให้ชาวกัมพูชา เป็นประจำ

ต่อมา สมเด็จฮุน เซน ได้ไลฟ์สดแปลเป็นภาษาไทยมีใจความว่า "รัฐบาลไทยได้ถอดถอนสัญชาติของหลวงตาสุจ พระภิกษุชาวไทย เพียงเพราะพูดเข้าข้างกัมพูชา แต่รัฐบาลกัมพูชาพร้อมจะให้สัญชาติ ให้ที่พำนักอาศัย ดูแลเป็นอย่างดี ผมขอกราบบังคมเชิญ

ล่าสุด พระครูถาวรวิชระชัย เจ้าอาวาสวัดป่าหนองแคร่ และเจ้าคณะตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดที่หลวงตาสุจย์สังกัดอยู่ ได้ออกหนังสือแจ้งการลงนิคหกรรม (การลงโทษพระภิกษุ) ลงวันที่ 19 มิถุนายน มีใจความว่า

"ตามปรากฏการณ์จากสื่อโซเชียลที่ท่านได้ละเมิดข้อวัตรปฏิบัติเกี่ยวกับสิ่งที่พระสงฆ์พึงปฏิบัติ ในเรื่องของความสงบเรียบร้อยของวัด และศาสนาเกี่ยวกับการยุยงให้พุทธศาสนิกชน อุบาสกอุบาสิกา ให้เกิดความแตกแยกถือเป็นอาบัติ (ข้อห้ามในพระธรรมวินัย) ที่พระภิกษุไม่ควรปฏิบัติ ซึ่งเป็นกิจที่พระสงฆ์ไม่ควรอย่างยิ่ง ้เป็นการส่งเสริมให้มีการแตกแยกความสามัคคีในชุมชน และระดับประเทศ ซึ่งเรื่องที่โจษจัณฑ์และเป็นโลกวัชชะ เป็นที่เสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์อย่างมาก ทางวัด จึงขอปัพพาชนียกรรม ท่านออกจากการสังกัดวัดป่าหนองแคร่ตั้งแต่บัดนี้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง