นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล กล่าวต่อผู้นำกองทัพอิสราเอล ว่า เป้าหมายของอิหร่านคือการยึดครองตะวันออกกลาง ดังนั้นถ้าหากไม่มีอิสราเอล ตะวันออกกลางจะต้องถึงคราวล่มสลาย
วันนี้ (1 ก.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล กล่าวปราศรัยต่อผู้นำกองทัพอิสราเอล เมื่อวานนี้ ว่า อิหร่านเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวของอิสราเอล โดยอิหร่านใช้ 3 แนวทางคือ การคุกคามอิสราเอลผ่านพันธมิตรอาหรับ, การยิงขีปนาวุธ และอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป้าหมายของอิหร่านไม่ได้มีเพียงแค่ทำลายอิสราเอล แต่ต้องการยึดครองตะวันออกกลาง ดังนั้นหากไม่มีอิสราเอล ตะวันออกกลางจะต้องถึงคราวล่มสลาย แม้การสนับสนุนจากสหรัฐฯ ยังเป็นเรื่องจำเป็น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคืออิสราเอลต้องพึ่งความแข็งแกร่งของตนเอง
ขณะที่เมื่อวานนี้ ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้กดดันให้อิสราเอลเร่งทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส แต่ทางอิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาอย่างหนัก โดยเครื่องบินอิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธใส่คาเฟริมชายหาดในเมืองกาซาซิตี จนมีผู้เสียชีวิตถึง 22 คน นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังโจมตีพื้นที่อื่นในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 36 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้อพยพปาเลสไตน์ที่เข้าไปขอรับอาหารและสิ่งของจำเป็นในศูนย์บรรเทาทุกข์
ด้านโฆษกทำเนียบขาวเผยว่า รัฐมนตรีกระทรวงยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ซึ่งเป็นตัวแทนของอิสราเอล จะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงในสัปดาห์นี้