ฮุน มานี ประชิดด่านช่องจอม ดูแรงงานกลับ จ.สุรินทร์

View icon 127
วันที่ 2 ก.ค. 2568 | 06.43 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ด่านข้ามแดนไทย-กัมพูชา ยังเปิดตามหลักมนุษยธรรม ให้นักเรียน ผู้ป่วย ข้ามแดนได้ปกติไม่มีเงืื่อนไข ที่ด่านโอร์เสม็ด รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงพื้นที่มาติดตามสถาการณ์คนกลับ

ฮุน มานี ประชิดด่านช่องจอม ดูแรงงานกลับ จ.สุรินทร์
นายฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายคนที่ 5 ของสมเด็จฯ ฮุนเซน พร้อมคณะ เดินทางมาด่านโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

เพื่อรับฟังบรรยายสถานการณ์ชายแดน และข้อมูลชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานของกัมพูชา ตั้งโต๊ะรับสมัครแรงงานไปทำงาน โดยแหล่งข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ของ นายฮุน มานี มาดูข้อมูลการรับสมัครงาน เพื่อจะนำแรงงานไปทำงานกับกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศกัมพูชา

ปาดน้ำตา ลาลูกสาวกลับกัมพูชา จ.สุรินทร์
ส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม นักเรียนชาวกัมพูชา ยังข้ามแดนมาเรียนหนังสือตามปกติ และยังมีชาวกัมพูชา 80 คน หอบสัมภาระมาข้ามแดนกลับประเทศต่อเนื่อง

ทีมข่าวช่อง 7HD ได้พบหญิงชาวกัมพูชา ปาดน้ำตาเดินข้ามพรมแดน เพราะจำใจต้องจากลูกสาวอายุ 3 ขวบ ไปดูแลแม่ป่วยหนัก ไม่รู้ชะตาว่าจะได้กลับมาหาลูกสาววันไหน

เปิดด่านช่องสะงำ รับผู้ป่วยข้ามแดน จ.ศรีสะเกษ
ส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรด่านช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ทางการกัมพูชาขออนุญาตเปิดด่านชั่วคราว เพื่อส่งตัวผู้ป่วยชาวกัมพูชา 2 คน เป็นโรคมะเร็ง ข้ามแดนมารักษาในประเทศไทย หลังตรวจสอบเอกสาร ก็ส่งต่อกันที่หน้าด่านฯ

นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยอีก 5 คน ขอข้ามแดน เพื่อมารับยารักษาโรคประจำตัว เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศ ก็อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี

คนไทยข้ามแดน อยู่เกินกำหนดโดนค่าปรับ จ.สระแก้ว
ส่วนที่ด่านถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ภาพรวมการเดินทางผ่านด่าน บางตา ไม่มีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาข้ามแดนมาไทย มีชาวไทยที่ข้ามแดนไปทำงานในกัมพูชา เดินทางกลับ เมื่ออยู่เกินเวลาที่กำหนดจะต้องเสียค่าปรับวันละ 400 บาท บางคนข้ามไปเที่ยว บอกว่าไม่สะดวกเหมือนเดิม

ส่วนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กัมพูชาดูแลเต็มที เช่นหญิงชาวไทยคนนี้ บาดเจ็บที่ขา เจ้าหน้ากัมพูชาเข็นรถวีลแชร์ข้ามแดนมาส่ง เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ บอกตรงกันว่ายินดีและเต็มใจช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม