พระนิทัศน์ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง ยันจะอยู่ที่วัดต่อ ฝากถึงเจ้าอาวาส "อย่าเพิ่งรีบตาย"

วันที่ 3 ก.ค. 68 ที่ วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. พระนิทัศน์ ประเสริฐ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังจากตัดสินใจ เปิดหน้าชน แฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง และไม่เชื่อว่าเงินหลายสิบล้านบาท พร้อมกับทองคำ จะหายจริง

พระนิทัศน์  กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนก็เคยเคารพนับถือ หรือ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสมาก่อน เนื่องจากว่าเคยเป็นพระอุปัชฌาให้ตอนที่เข้ามาบวช แต่สุดท้ายมาแตกหักกัน เพราะอีกฝ่ายใส่ร้ายกลั่นแกล้ง โดยเอาตำรวจมาจับถึงกุฎิ และอ้างว่าประพฤติตนไม่เหมาะสม ทั้งที่ไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน หลังจากนั้นตนจึงหมดความเชื่อถือกับอีกฝ่ายไปเลย

และหลังจากนั้น เจ้าอาวาสท่านนี้ก็ประพฤติตนไม่เหมาะสม ได้ใช้ให้ลูกศิษย์ไปขโมยพระโบราณมาจากอีกวัดหนึ่ง เพื่อนำมาใช้ในการต่อรองตำแหน่งเจ้าคณะกับพระชั้นผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เนื่องจากว่าลูกศิษย์คนดังกล่าวถูกตำรวจกองปราบจับ และโทรมาบอกเจ้าอาวาสบอกว่า “ผมเกมแล้ว”

จากนั้นตำรวจกองปราบก็เข้ามาจับถึงในกุฎิ ซึ่งตนก็เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลังจากนั้น ก็ถูกแจ้งข้อหา แต่ภายหลัง ก็ไม่ทราบว่าหลุดคดีมาได้อย่างไร

ซึ่งหลังจากตนรู้เรื่องเหล่านี้ ตนก็ถูกกลั่นแกล้ง โดยเอาตำรวจมาจับเดือนนึงสามหน เอาไปตรวจปัสสาวะ แต่ว่าตนเองไม่ได้เสพ เลยตรวจไม่เจอ

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเงิน 10,000,000 บาท ไม่ได้หายไป เงินอาจจะมีจริง เพราะว่าไปเอาออกมาจริง แต่ต้องถามกลับว่า เป็นเงินวัดหรือเงินส่วนตัว  พอถามก็บอกว่า เป็นเงินส่วนตัว เนื่องจากเป็นคดีความออกข่าวไปแล้ว แต่ถ้าไม่ได้ออกข่าว ก็จะบอกว่าเป็นเงินวัด

เมื่อสอบถามว่า พบเส้นทางการเงิน หรือการใช้งานที่ผิดปกติหรือไม่  พระนิทัศน์ บอกว่า ก็มีคือมีการซื้อบ้าน หลาย 100 ล้านบาท และหลายหลัง บ้านอยู่ที่เมืองกาญจน์ ราชบุรี นครปฐม และที่สนามบินน้ำ ซึ่งเรื่องนี้จะมาโกหกกันไม่ได้หรอก เพราะว่า ชื่อเจ้าของบ้าน ก็แสดงอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ตนโดนขับออกจากวัดนั้น ตนจะนอนที่วัดต่ออีกไม่ออกไปไหนแน่นอน แต่ถ้ามีการยกพวกมาบุกกุฎิ  หรือให้ออกไป  ก็อาจจะโดนลูกปืนได้ เพราะเป็นนิติบุคคล จะมาปีน อาจจะโดนลูกปืนได้ เราก็มีลูกศิษย์  ย้ำว่าถ้าพรุ่งนี้มาหาก็ยังอยู่ที่เดิม ส่วนที่บอกว่าเจ้าอาวาสเครียดความดันขึ้นส่วนตัวมองว่าเป็น เพราะว่าจะต้องถูกสึก จึงอยากฝากบอกว่า "อย่าเพิ่งเครียด เดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกตายเสียก่อน"

ทั้งนี้ ที่หลายคนบอกว่าตนเองอกตัญญูนั้น มองว่า ถ้าเจ้าอาวาสเป็นคนดีตนเองก็จะกตัญญู แต่นี่เป็นคนไม่ดี เป็นคนเลว จะกตัญญูทำไม จะเอาเข้าคุกอยู่แล้ว พร้อมถามกลับว่า "เคยให้อะไรกู กูถึงต้องไปกตัญญูกับมึง"  และที่ใครบอกว่าตนเองไม่สำรวมนั้น ตนเองก็ช่างหัวมัน เพราะตนเองพูดแบบพื้นๆ เรียนมาน้อย จบแค่ป.6 ดัดจริตไม่เป็น

สุดท้าย ตนอยากฝากความคิดถึงถึงเจ้าอาวาส ขอให้ชีวิตอายุยืนนาน อย่าเพิ่งรีบตาย ให้อยู่นานนาน