อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง ลั่นคนที่เชื่อว่าเงินหาย ก็มีคือคนที่ประจบสอพลอ

อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง ลั่นคนที่เชื่อว่าเงินหาย ก็มีคือคนที่ประจบสอพลอ

View icon 101
วันที่ 4 ก.ค. 2568 | 15.58 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดรามาต่อ! คดีเงิน-ทอง เจ้าอาวาสวัดม่วง พระนิทัศน์ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง ลั่น คนที่เชื่อว่าเงินหาย ก็มีคือคนที่ประจบสอพลอ   

วันนี้ (4 ก.ค. 68) พระนิทัศน์ ประเสริฐ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังออกมาแฉพฤติกรรมของเจ้าอาวาส ระบุว่า ตนเองยังคงจำวัดอยู่ที่วัดม่วง ยังไม่มีใครมาเชิญใหัออกจากวัด หรือมีหน่วยงานใดส่งหนังสือเข้ามาให้ แต่ทั้งนี้หากมีการเชิญตนเองให้ออกไป ก็จะไม่ไป เพราะตนเองยังมีสิทธิ์สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ การที่จะขับตนเองออกจากวัดนั้น ถ้าใช้มาตรา 38 เป็นเหตุอ้าง ที่บอกว่าตนเองไปใส่ร้าย จะต้องรอผลสอบออกมาก่อน เพราะตนเองไม่เชื่อว่าเงินและทองหายไปจริง

พระนิทัศน์ ยังชี้ระบุว่า รอบกุฏิวัดเป็นทางปิดมีรั้วรอบขอบชิดหากจะแบกเงิน 10 ล้าน ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม และทอง 250 บาทซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม ออกไปนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องแบกผ่านทาง้ดินซึ่งมีกุฎิหลายหัอง อีกทั้งไม่พบร่องรอยการงัดแงะประตู 5 บาน มีรอยงัดแงะเพียงแค่ 1 บาน ซึ่งตำรวจก็ระบุว่าเป็นรอยงัดเก่าเมื่อ 5-6 ปีก่อน อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าการงัดจะต้องงัดให้ครบทุกประตูไม่ได้งัดแค่ประตูเดียว จึงเป็นไปไม่ได้

พระนิทัศน์ กล่าวอีกว่า คนที่เชื่อว่าเงินหาย ก็มีคือคนที่ประจบสอพลอและหวังผลประโยชน์ กับเจ้าคุณณรงค์ ซึ่งในวัดมีผลประโยชน์เยอะ แม้กระทั่งเงินค่าน้ำแข็ง ค่าพวงหรีด ที่มาส่งในวัดนั้น เป็นร้านที่ทางวัดผูกขาดเพราะได้รับเงินส่วนแบ่ง

ส่วนที่เจ้าคุณณรงค์ บอกว่า พานนิทัศน์ใส่ร้ายนั้น พระนิทัศน์ระบุว่าเมื่อถูกไล่ออกมากว่า 20 ปี ตนเองก็ไม่สามารถปฏิบัติกิจของสงฆ์ร่วมกับวัดได้แต่ทั้งนี้หลวงพี่ยังรับกิจของสงฆ์แต่ถูกตัดชื่อออกไป

ส่วนที่ประชาชนตั้งคำถามว่าพระนิทัศน์ใส่ผ้าเหลืองแต่สวดมนต์ไม่ได้นั้น  เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่ไม่รู้ ซึ่งตนเองยังสามารถปฏิบัติธรรมได้และตนเองก็นั่งสมาธิจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลกดทับพร้อมกับโชว์บาดแผลที่พันผ้าให้สื่อมวลชนดู ทุกวันนี้ก็ยังไหว้พระมีพุทธรูปอยู่ มองว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ต้องมายุ่ง หากไม่มีความรู้ก็ไม่ต้องมาวิจารณ์

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะไปที่ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ข้อมูลกับ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังของความไม่โปร่งใสและไม่ชอบมาพากลภายในวัดม่วง  รอมา 20 ปี สบโอกาสเสียที โดยให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาไม่อยากให้ข้อมูลกับตำรวจท้องที่ เพราะไม่เชื่อมั่น ทั้งที่เจ้าคุณณรงค์ก่อคดีไว้มากมาย แต่ก็รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะมีตำรวจเลวช่วยเหลือ การต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าอยากให้ เจ้าคุณณรงค์ ลาสิกขาไป แต่อยากให้ชาวโลกได้รับรู้ ได้ตาสว่าง จะได้ไม่ต้องถูกหลอก บางคนเห็นห่มผ้าเหลืองก็ไม่ใช่คนดี แต่อยู่กันเพื่อเงินเพื่อผลประโยชน์ โดยจะให้ข้อมูลกับ “บิ๊กเต่า” เพียงคนเดียวเท่านั้น

พระนิทัศน์ ย้ำอีกว่า ไม่ได้คาดหวังที่จะไปทำร้ายอะไรกันแต่อยากให้สังคมได้รับรู้ แต่ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานทั้งฆราวาสและพยานทางเอกสาร ซึ่งพยานพระคนนี้ถือว่าเป็นทีเด็ดที่รอดตาย เพราะพยานคนนี้ได้ช่วยมาตลอดแต่ปัจจุบันยังนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์

ยืนยันว่าตนเองไม่ได้โกหกและจะไม่พูดเรื่องที่ไม่จริง ไม่มีการกลั่นแกล้งถ้า หากเค้าไม่ได้ทำเราก็จะไม่ไปพูดไปว่าหรือไปกลั่นแกล้งได้ ตนเองพูดเรื่องจริงทุกเรื่องไม่ได้กล่าวหาไปเรื่อย

พระนิทัศน์ ยังยอมรับว่า ในสมัยก่อนมีเด็กและพระเข้ามาเสพยาในกุฏิจำนวนมาก แต่พระก็ถูกจับสึกไปหมดแล้ว พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจหากกล่าวหาว่าตนเองเสพยามาก่อนก็สามารถมาตรวจตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง