เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ แจ้งจับ "จอนนี่ มือปราบ" สร้างรีสอร์ตรุกล้ำเขตนิคมสร้างตนเอง จังหวัดอุบลราชธานี
แจ้งจับ "จอนนี่ มือปราบ" สร้างรีสอร์ตรุกเขตนิคมฯ
นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ผู้รับมอบอำนาจจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีกับ นายยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่ มือปราบ" อดีตตำรวจที่ลาออกจากราชการ ผันตัวมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ตรุกเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
นายวัชระ เผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ ได้รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ ประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ต เมื่อปี 2564
ทางกรมฯ ได้ลงบันทึกประจำวัน และมีหนังสือให้ระงับการสร้างรีสอร์ตตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ตไม่ให้ความร่วมมือ และยังโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในรีสอร์ต
"จอนนี่ มือปราบ" เดือด ! แจ้งความกลับ
ต่อมาล่าสุด "จอนนี่ มือปราบ" ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตนเองมาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ, นางจันที สมนา ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และจะให้ทีมทนายร้องไปยัง ป.ป.ช., ป.ป.ท.อีกด้วย
ด้าน นายมิตรชัย ขันคำ ผู้ใหญ่บ้านห้วยไฮ ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร เผยว่า พื้นที่ดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วน เป็นพื้นที่สามารถออกเอกสารครอบครองได้ 80 % ส่วนอีก 20 % ถูกกันให้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย ซึ่งพื้นที่ใน 20% ดังกล่าว มีชาวบ้านอยู่อาศัยมานานกว่า 40 ปี มีชาวบ้านกว่า 500 หลังคาเรือน
สำหรับกรณีที่เป็นประเด็น หากมองว่า จอนนี่ มือปราบ สร้างรีสอร์ตรุกที่สาธารณะ หากจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ต้องขับไล่ชาวบ้านทั้งหมดในพื้นที่กว่า 500 หลังคาเรือนด้วย เพราะไม่ฉะนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
นอกจากนี้ ที่ดินที่ถูกร้องเรียนนั้น มีการเปลี่ยนมือมาแล้ว 2 คน จอนนี่ เป็นคนที่ 3 และมีผู้รู้เห็นร่วมในการซื้อขายทำสัญญาด้วย