มาเลเซีย เรียกร้องให้การค้าระหว่างชาติอาเซียน มีความเข้มแข็งขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการค้าโลก
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) ของมาเลเซีย กล่าวระหว่างพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 58 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 โดยเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอาเซียน (ASEAN) ทั้ง 10 ประเทศ "ดำเนินการอย่างมีจุดมุ่งหมาย" และเพิ่มการค้าระหว่างกันให้มีความเข้มแข็งขึ้นในสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม แม้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียไม่ได้กล่าวถึงสหรัฐฯ โดยตรง แต่ได้เอ่ยถึงภาษีศุลกากร, ข้อจำกัดด้านการส่งออก และอุปสรรคด้านการลงทุน ว่าเป็น "เครื่องมือที่แหลมคมของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์"
ขณะที่ วันนี้ (9 ก.ค.) คาดว่าจะมีการประชุมหลายนัดระหว่างชาติสมาชิกอาเซียนและพันธมิตรการค้ารายใหญ่ อาทิ สหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, อินเดีย และสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ อาเซียน ซึ่งเป็นกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออก นับเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยสมาชิกบางส่วนได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของจีน ขณะที่มีเพียงเวียดนามเท่านั้นที่บรรลุข้อตกลงภาษีกับสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งลดอัตราภาษีลงเหลือ 20% จากเดิม 46% ในขณะที่ชาติสมาชิกอื่น ๆ กำลังพยายามเจรจาขอลดอัตราภาษี