ไซเบอร์-ปปง. หารือยึดทรัพย์เครือข่ายก๊กอาน 1 พันล้านบาท พร้อมเร่งทำสำนวนส่งอัยการ

ไซเบอร์-ปปง. หารือยึดทรัพย์เครือข่ายก๊กอาน 1 พันล้านบาท พร้อมเร่งทำสำนวนส่งอัยการ

View icon 126
วันที่ 9 ก.ค. 2568 | 18.54 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์-ปปง. หารือยึดทรัพย์เครือข่ายก๊กอาน กว่า 1 พันล้านบาท เร่งเช็กโยงบุคคลในไทย-กัมพูชาหรือไม่ พร้อมทำสำนวนส่งอัยการ ก่อนประสานอินเดตอร์โพลออกหมายแดง

วันนี้ (9 ก.ค.68) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เดินทางเข้าพบหารือ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เตรียมลุยยึดทรัพย์เครือข่ายนายก๊กอันกว่า 1 พันล้านบาท เกี่ยวพันขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยการหารือใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ท. ไตรรงค์ เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับ ผอ.กองกฎหมาย ปปง. วันนี้ เนื่องจากพบว่านายก๊กอาน มีความเชื่อมโยงกับคดีของ น.ส.ชาล็อต นางแบบชื่อดัง และยังพบคดีอื่นๆ อีก 3 คดีที่มีความเชื่อมโยงกัน จึงเป็นหลักฐานให้นำมาสู่การออกหมายจับในประเทศไทย ในข้อหาเป็นผู้มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบในสำนวน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา หากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาล จึงจะสามารถประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) ออกหมายแดงต่อไป

ทั้งนี้ การประชุมวันนี้ยังได้รับประโยชน์เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของนายก๊กอานในอดีต ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในประเทศไทยหรือกัมพูชาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่เชื่อว่านายก๊กอานได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศอีกจำนวนมาก หากเป็นประเทศที่อยู่ในความร่วมมือของอินเตอร์โพลก็มีแนวโน้มที่จะขอความร่วมมือในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินได้ง่าย ส่วนจะมีคนไทยหรือใครที่รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังก็ต้องขยายผลเพิ่มเติม

ส่วนกรณีลูกสาวนายก๊กอานสวมบัตรประชาชนคนไทย จากข้อมูลของตำรวจยังขัดแย้งกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ซึ่งต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบค้นข้อมูลว่า คนไทยที่ถูกสวมสิทธิยังมีตัวตนอยู่หรือไม่ หรือเป็นการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์

ด้าน นายสุทธิศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของเครือข่ายนายก๊กอาน พบว่ามีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านบาท และเชื่อว่ามีทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังต้องสืบทรัพย์อีกจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลและทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่ง ปปง. มีอำนาจในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินส่วนนี้มาขายทอดตลาดและคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหาย