ลูกทรพี คลั่งยา ลากพ่อสูงอายุออกทุบตี ทำร้ายหน้าบ้าน จนชาวบ้านทนไม่ไหวรีบแจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ

ลูกทรพี คลั่งยา ลากพ่อสูงอายุออกทุบตี ทำร้ายหน้าบ้าน จนชาวบ้านทนไม่ไหวรีบแจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ ล่าสุด พ่อผู้ก่อเหตุยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.

จากกรณีชาวบ้านบันทึกคลิปวดีโอ ขณะลูกชายคลั่งยาลงมือทั้งทำร้ายพ่อแท้ๆ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณชุมชนหมู่ 1 เทศบาลหัวกุญแจ ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ต่อมาวันนี้ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังบ้านหลังหนึ่งข้างๆกับโรงเรียนชุมชนบ้านหัวกุญแจได้ พบกับนางสายัณห์ อายุ 61 ปี พลเมืองดีเจ้าของคลิป และเป็นเพื่อนบ้านผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อสอบถามรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นโดย   

นางสายัณห์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม  2568 ที่ผ่านมา ตนเองได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันข้างๆบ้านที่อยู่รั้วติดกัน จึงออกมาดู พบนายประสพ อายุ 67 ปี ผู้เป็นพ่อถูกนายสุวัฒน์ อายุ 38 ปี ลูกชายก่อเหตุทำร้ายทุบตีด้วยท่อนเหล็ก มือและเท้า เมื่อตนเองเห็นเหตุการณ์ จึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่เทศบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองกิ่ว ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ

นายประสพ ถูกนายสุวัฒน์ทำร้ายทุบตีในครั้งนี้ นับเป็นความรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อก่อนลงไม้ลงมือบ้าง แต่ไม่หนักหนาถึงขนาดนี้ ที่จำได้นายสุวัตน์ เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมาตั้งแต่ปี 2551 มักก่อเหตุ อาละวาดทำลายข้าวของ และหาเรื่องกับคนที่อยู่ในบ้านเป็นประจำ ตนเองและชาวบ้านบริเวณนี้ต่างก็เอือมระอากับพฤติกรรมของนายสุวัฒน์ ที่มักจะก่อเหตุอาละวาดทุบตี ใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ อยู่ตลอด อยากให้นายสุวัตน์ เลิกยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีกลับมาเป็นผู้เป็นคนดูแลครอบครัว

ด้านนายชัยยศ ณรงค์ฤทธิ์ สารวัตรกำนันตำบลคลองกิ่ว เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุวัฒน์ เคยถูกนำตัวส่งไปบำบัด ที่ค่ายทหารนานถึง 4 เดือน ช่วงที่รับการบำบัด ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่พอกลับออกมาจากการบำบัด ก็กลับมายุ่งข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอีก และมักก่อเหตุอาละวาดทำร้ายข้าวของ ใช้ความรุนแรงกับผู้เป็นพ่อ ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลงมือทุบตีพ่อของตนเองได้รับบาดสาหัสเลือดคั่ง ขณะนี้พ่อของนายสุวัตน์ ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บ้านบึง ส่วนเรื่องของคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แนะนำให้ผู้เสียหาย คือ นายประสพ ผู้เป็นพ่อ ได้นำผลการตรวจร่างกาย จากทางโรงพยาบาลนำมาประกอบแจ้งความ