โต้วุ่น ! พท.-ปชน. ปมรถไฟฟ้า 20 บาท

View icon 117
วันที่ 14 ก.ค. 2568 | 06.33 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - แม้ว่าโครงการ "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" จะเริ่มโครงการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคประชาชนที่ตั้งข้อสังเกตมาต่อเนื่อง และพรรคเพื่อไทยก็ออกมาตอบโต้อย่างดุเดือด

และนี่คืออินโฟกราฟิกล่าสุดที่ "พรรคประชาชน" เผยแพร่ผ่าน Facebook ของพรรค โดยเปรียบเทียบนโยบายให้เห็นชัด ๆ กับพรรคเพื่อไทย

จุดเด่นที่พรรคประชาชนเสนอคือค่าโดยสาร "รถไฟฟ้า และ รถเมล์" อยู่ที่ 8-45 บาทตลอดทาง ทั้งยังเดินหน้าเสนอร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ โดยสามารถถือบัตรใบเดียวใช้ได้กับทุกระบบขนส่งสาธารณะ ที่สำคัญใช้เงินอุดหนุน 7,000 ล้านบาทต่อปี

แตกต่างจากโครงการของพรรคเพื่อไทย เน้นเฉพาะระบบรถไฟฟ้า ไม่มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ อีกทั้งจะยั่งยืนหรือไม่ยังไม่มีใครรู้ เพราะขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะทำต่อหรือไม่ แถมใช้เงินอุดหนุน 7,000-12,000 ล้านบาทต่อปี และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่

ขณะที่แกนนำของพรรคเพื่อไทย ต่างออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้ โดยเฉพาะประเด็นการเอื้อนายทุน

อย่างนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กรุงเทพฯ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธว่า ไม่ใช่การเอื้อนายทุน แต่คือการคืนรอยยิ้มให้คนทำงาน ซึ่งงบอุดหนุนรถไฟฟ้า 10,000 ล้านบาทต่อปี ไม่ใช่เม็ดเงินที่หายไปไหน แต่คือการลงทุนเพื่อให้คนใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ถูกลง

ด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยโพสต์ "X" ตอบโต้ในประเด็นเดียวกันว่า "คิดเห็นต่างกันได้ แต่อย่ามุ่งชี้นำสังคมให้คนอื่นเป็นผู้ร้ายตลอดเวลา ดีอยู่คนเดียว เก่งสุดคนเดียวเลยครับ" พร้อมกับชี้แจงประเด็นเรื่อง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ที่ต้องรอรถเมล์เปลี่ยนผ่านสู่ระบบรถ EV ก็จะมีความพร้อมทางเทคโนโลยีเชื่อมต่อกันมากขึ้น รวมถึงยังชี้แจงประเด็นเรื่องราคา 20 บาท ซึ่งจะมีคณะกรรมการที่มีอำนาจพิจารณา ซึ่งก็คล้ายกันกับของพรรคประชาชน

ขณะที่ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ชี้แจงผ่านโซเชียลฯ ยืนยันว่า รัฐบาลใช้เงินอุดหนุน 5,500 ล้านบาทต่อปี คิดได้คร่าว ๆ คือ อุดหนุน 7 บาท/คน/เที่ยว/วัน ส่วนการเจรจากับผู้ได้รับสัมปทานยังอยู่ระหว่างดำเนินการ

และที่สำคัญนายศึกษิษฏ์ฯ โพสต์ว่า โครงการนี้เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นจริง ประชาชนได้ประโยชน์จริง "ไม่ใช่สร้างวาทกรรมว่าจะรื้อนู่นทำลายนี่ ชี้หน้าด่าเอกชนว่าเป็นผู้ร้ายนายทุน ทำให้รัฐต้องมีความเสี่ยงถูกฟ้องร้อง"