ห้องข่าวภาคเที่ยง - เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ไม่ลงปฏิบัติศาสนกิจในพระอุโบสถ์ ตามปกติ ทำให้มีข้อสงสัยไปต่าง ๆ นานา ล่าสุดได้ลาสิกขาแล้ว
เจ้าคณะจังหวัด ไม่ลงโบสถ์ปฏิบัติศาสนกิจ จ.พิจิตร
ทีมข่าวลงพื้นที่วัดท่าหลวง พระอารามหลวง จังหวัดพิจิตร เพื่อติดตามสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ปรากฏว่า เช้าวันนี้ (15 ก.ค.) ที่พระอุโบสถ วัดท่าหลวง ซึ่งโดยปกติ เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร จะลงมาทำวัตรเช้า ร่วมกับคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนเป็นประจำ แต่กลับไม่ลงมาปฏิบัติศาสนกิจอย่างเช่นทุกวัน
ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปตรวจสอบบริเวณกุฏิ และสำนักงานเจ้าคณะจังหวัด พบว่าประตูปิดเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เมื่อสอบถามพระลูกวัดรายหนึ่ง ระบุเพียงว่า "ไม่แน่ใจว่าท่านติดกิจนิมนต์ที่อื่นหรือไม่"
การไม่ปรากฏตัวลงปฏิบัติศาสนกิจเช่นนี้ จึงสร้างความสงสัยให้กับสาธารณชนท่ามกลางกระแสข่าวที่กำลังร้อนแรง อาจเป็นเพราะมีการเผยแพร่ภาพแช็ตของผู้หญิงรายหนึ่ง พูดคุยกับผู้ชายหัวโล้น ใส่เสื้อยืดสีขาว ซึ่งมีหน้าตาคล้ายพระผู้ใหญ่ในจังหวัดพิจิตร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ได้ลาสิกขาแล้ว ที่วัดตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์
เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ยังล่องหน จ.พิษณุโลก
ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อำเภอเมืองพิษณุโลก เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) คณะสงฆ์จังหวัดพิษณุโลก ได้ประกอบพิธีสามีจิกรรม ในวันเข้าพรรษา แต่ไร้เงา เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่หายตัวเงียบไร้วี่แวว และยังตรวจสอบไม่พบว่าลาสิกขาแล้วหรือไม่
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เมื่อยังไม่ชัดเจนเรื่องการลาสิกขา ทางคณะสงฆ์เองก็ต้องดำเนินงานกิจการของคณะสงฆ์ตามลำดับชั้น โดยยังไม่มีการก้าวก่าย เรื่องตำแหน่งของท่านเจ้าคณะจังหวัด โดย รองเจ้าคณะจังหวัด ทำหน้าที่ดูแลงานด้านนี้แทนไปก่อน สอดคล้องกับ พระครูปริยัติสุวรรณโพธิ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ยังไม่สามารถติดต่อ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้ โดยพบเจ้าคณะจังหวัดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้อีกเลย
เร่งตรวจสอบ บัญชีรับ-จ่าย วัดหาย จ.สมุทรสาคร
ที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากมีข้อมูลเอกสารบัญชีรับ-จ่ายของ วัดใหญ่จอมปราสาท ซึ่งกำลังมีประเด็นร้อนเรื่องเจ้าอาวาส มีการโอนเงินให้ สีกากอล์ฟ กว่า 1 ล้านบาท หายไป และได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.)
นายอิทธิ สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เปิดเผยว่า เอกสารบัญชีรับ-จ่ายที่หายไปนั้น เป็นเอกสารของปี 2567 ที่ทางสำนักพุทธฯ ต้องทำสรุปเรื่องส่งให้กับ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา และผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รับทราบ เนื่องจากเป็นประเด็นที่เป็นกระแสสังคม เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบแฟ้มและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยระบุว่า ได้มีการถ่ายสำเนาเอกสารบัญชีรับจ่าย ปี 2567 ไว้ จำนวน 6 ชุด ซึ่งทั้งหมดได้หายไปจากแฟ้มเอกสาร
ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้เข้ามาตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในศาลากลางจังหวัด โดยได้คัดลอกไฟล์ภาพจากเซิร์ฟเวอร์เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของใคร
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของทางวัดใหญ่จอมประสาท มีรายงานว่า พระสมุห์แผน ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส จากหนังสือคำสั่งของเจ้าอาวาสที่หายตัวไป ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส โดยขอให้เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เข้ามาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท แทนตนเอง