เช้านี้ที่หมอชิต - ตามต่อกับประเด็น "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" เพราะเหมือนจะยังไม่นิ่ง เพราะล่าสุดมีความเห็นจาก "ผู้ว่าฯ ชัชชาติ" ที่ยืนยันว่าไม่ขัดข้องกับนโยบายนี้ แต่มีข้อกังวลอยู่ 2 ประเด็น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม. ไม่ขัดข้องกับนโยบายดังกล่าว เพราะช่วยให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลง แต่มีข้อกังวล 2 ประเด็น ที่เกี่ยวข้องกับ กทม.
คือ การชดเชยรายได้ที่หายไป เพราะตัวเลขที่กระทรวงคมนาคมประมาณการมาน้อยไป ปัจจุบันค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 34 บาทต่อคน และมีผู้โดยสารประมาณ 700,000 คน จึงต้องพูดคุยรายละเอียดอีกครั้ง
และอีกประเด็น คือ กทม. จ้างเอกชนเดินรถ จึงต้องพิจารณาว่ามีการชดเชยอย่างไร เพราะต้นทุนจ้างเอกชนเดินรถประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่มีรายรับประมาณ 2,000 ล้านบาท ในอนาคตก็จ่อที่ปรับค่าโดยสารอีก เพราะต้นทุนกับรายได้ไม่สอดคล้องกัน
ดังนั้น การชดเชยต้องให้เกิดความยุติธรรม เบื้องต้นได้แจ้งกระทรวงคมนาคมไปแล้ว และอยู่ระหว่างรอเรียกเข้าไปพูดคุยในรายละเอียดตัวเลขชดเชยที่ต้องคำนวณให้ชัดเจน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ บอกว่า สิ่งที่กังวล คือ เรื่องสัญญาระหว่างเอกชนกับ กทม. ซึ่งต้องพูดคุยให้ชัดเจน เพราะหากตกลงเรื่องค่าชดเชยไม่ได้ กทม. อาจถูกฟ้องร้อง และการพูดคุยเรื่องชดเชยต้องคุยกัน 3 ฝ่าย คือ คมนาคม, กทม. และเอกชน เชื่อว่าน่าจะเริ่มพูดคุยได้เร็ว ๆ นี้
ก่อนหน้านี้ตัวเลขอุดหนุนรายได้รถไฟฟ้าในโครงการ 20 บาทตลอดสาย ยังสับสน เพราะมีหลายกระแสข่าวทั้ง 5,500 ล้านบาทต่อปี, 7,000 ล้านบาทต่อปี, 10,000 ล้านบาทต่อปี
และที่สำคัญโครงการถูกเปิดเผยว่าจะเดินหน้า 1 ตุลาคม 2568 แต่ปรากฏว่ายังไม่มีการพูดคุยกับ กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการสายสีเขียว และ สายสีทอง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า เอกสารล่าสุดที่ กทม. ทำหนังสือด่วนที่สุดไปยังคณะรัฐมนตรี ลงนามโดย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ให้ความเห็นเรื่องประมาณการชดเชยส่วนต่างรายได้ของ กทม. ในปีงบฯ 2569 หากมีโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คาดว่าต้องใช้เงิน 11,059.64 ล้านบาทต่อปี ในการชดเชยส่วนต่างรายได้ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว และ สายสีทอง ยังไม่รวมงบฯ อื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอีก แต่ กระทรวงการคลัง ประมาณการไว้ที่ 2,525 ล้านบาทต่อปี เท่านั้น
