ภูเขาไฟปะทุ บริเวณคาบสมุทรเรคยาเนส ประเทศไอซ์แลนด์ ภายใน 4 ปี ปะทุแล้ว 12 ครั้ง สร้างรอยแยกยาวบนพื้น 700-1,000 เมตร นักท่องเที่ยว-ประชาชนเมืองใกล้เคียงพากันอพยพ
วันนี้ (17 ก.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไอซ์แลนด์ (IMO) เผยว่า ภูเขาไฟลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเรคยาเนส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ได้เกิดปะทุขึ้นพ่นเถ้าถ่านและลาวาออกมา เมื่อวานนี้ (16 ก.ค. 68) ที่ผ่านมา
โดยการปะทุครั้งนี้เป็นการปะทุครั้งที่ 12 แล้ว นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 โดยแมกมาที่พุ่งทะลุเปลือกโลกขึ้นมาส่งผลให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่ที่มีความยาวระหว่าง 700-1,000 เมตร ซึ่งก่อนการปะทุนั้นแทบไม่มีสัญญาณเตือนเลย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับคามโครงสร้างพื้นฐาน และจากการตรวจสอบการปะทุครั้งนี้อาจเป็นการปะทุขนาดเล็ก
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงสาธารณะ RUV ได้รายงานโดยอ้างคำกล่าวของตำรวจไอซ์แลนด์ว่า ผู้คนใน “บลูลากูน” ซึ่งเป็นรีสอร์ทสปาน้ำพุร้อน และประชาชนในเมืองกรินดาวิกที่อยู่ใกล้เคียง ได้รับการอพยพออกมาแล้ว ซึ่งเมืองกรินดาวิก มีประชาชนอาศัยอยู่เกือบ 4,000 คน ก่อนจะมีคำสั่งอพยพใน พ.ศ.2566 จึงทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเป็นพื้นที่รกร้างนับตั้งแต่นั้นมา เนื่องจากมีภัยคุกคามจากลาวาไหลและแผ่นดินไหว
ขณะที่การจราจรทางอากาศในกรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ยังคงดำเนินไปตามปกติ เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากการพ่นเถ้าถ่านของปะทุของภูเขาไฟในครั้งนี้
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการปะทุในพื้นที่ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นซ้ำอีกไปอีกหลาย 10 หรือหลาย 100 ปี แต่จะเป็นการปะทุพ่นลาวาตามรอยแยกยาว ๆ ไม่ใช่การพ่นลาวาจากปล่องภูเขาไฟขึ้นไปบนท้องฟ้า
ทั้งนี้ ประเทศไอซ์แลนด์ มักถูกเรียกว่าดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ เนื่องจากเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็งและมีภูเขาไฟมากมาย และเผชิญการปะทุของภูเขาไฟมาแล้วหลายสิบครั้ง
