ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา ปัดตอบระเบิดใหม่หรือเก่า ถามจุดที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดอยู่ฝั่งใคร

ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา ปัดตอบระเบิดใหม่หรือเก่า ถามจุดที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดอยู่ฝั่งใคร

View icon 366
วันที่ 18 ก.ค. 2568 | 16.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“เฮง รัตนา” ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา ปัดตอบกับระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นระเบิดใหม่หรือเก่า พร้อมถามจุดเกิดเหตุอยู่ฝั่งใคร ถ้าอยู่ฝั่งไทย ไทยก็ต้องรู้เรื่องอยู่แล้ว 

วันนี้ (18 ก.ค. 68) จากกรณีที่พลกองร้อยทหารราบที่ 6021 ได้เหยียบระเบิดขณะลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้ทหาร 3 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุได้มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับประเภทของระเบิดว่าเป็นระเบิดเก่าหรือระเบิดใหม่ ทางแม่ทัพภาคที่ 2 จึงได้สั่งการให้หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดอย่างละเอียด

ทาง นายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า เจ้าหน้าที่ของไทยบางคนยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากกับระเบิดเก่าที่ตกค้างจากสงคราม แต่ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่อีกส่วนที่อ้างว่าพื้นที่บริเวณนั้นได้รับการเก็บกู้ไปแล้ว และอาจเป็นกับระเบิดที่ถูกนำมาวางใหม่

มีนักข่าวมาขอความคิดเห็นจากตน ซึ่งตนก็แนะนำให้ไปตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่า จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ในเขตแดนของประเทศไทยหรือของกัมพูชา เพราะหากเกิดขึ้นในเขตอำนาจอธิปไตของไทย ทางฝ่ายไทยก็ต้องทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

ขณะที่ทางสำนักข่าว ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า นายเฮง รัตนา กล่าวว่า ไทยอาจกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายบนแผ่นดินกัมพูชา และกำลังวางทุ่นระเบิดแล้วกล่าวโทษกัมพูชา ทั้งนี้กัมพูชาไม่ได้แสวงหาความขัดแย้ง แต่แสวงหาสันติภาพ ความร่วมมือ และเสถียรภาพ แต่สันติภาพต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และบูรณภาพแห่งมิตรภาพ ซึ่งการลาดตระเวนอย่างไม่รอบคอบในพื้นที่พิพาทที่เหมือนการปฏิบัติการตามปกติ มีแต่จะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตและผลักดันภูมิภาคของเราเข้าใกล้การเผชิญหน้ากันมากยิ่งขึ้น
และจากเหตุการณืครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนให้ผู้นำไทยหยุดปลุกกระแสชาตินิยม หากไทยต้องการสันติภาพอย่างแท้จริง ก็ควรเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์อย่างโปร่งใส โดยร่วมมือกับกัมพูชาผ่านช่องทางการทูต และสนับสนุนความพยายามในภูมิภาคเพื่อหลีกเลี่ยงการลุกลามบานปลาย