Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 18 ก.ค.68
1.ทำเนียบขาว สยบข่าวลือ “ทรัมป์” ป่วยหนัก
แคโรไลน์ ลีวิตต์ (Karoline Leavitt) โฆษกทำเนียบขาว ออกมาชี้แจ้งสยบข่าวลือที่ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ป่วยหนัก หลังมีการแชร์ภาพในอินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย แสดงให้การใช้เครื่องสำอางปกปิดบริเวณหลังมือ โดยโฆษกทำเนียบขาวอ้างถึงจดหมายแพทย์ประจำตัวของทรัมป์ ระบุว่า ทรัมป์ได้เข้ารับการตรวจร่างกาย และทำการอัลตราซาวด์บริเวณขา พบว่ามีภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง (Chronic Venous Insufficiency) ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีอายุ 70 ปี ขึ้นไป
นอกจากนี้ ภาพถ่ายล่าสุดของประธานาธิบดียังแสดงให้เห็นรอยฟกช้ำเล็กน้อยที่หลังมือ ซึ่งสอดคล้องกับอาการเนื้อเยื่ออ่อนระคายเคืองจากการจับมือบ่อย ๆ และการใช้ยาแอสไพริน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมาตรฐาน และแพทย์ประจำตัวของทรัมป์ยืนยันว่า ไม่มีสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง
ปัจจุบัน ทรัมป์ อายุ 79 ปี เขามักคุยโวอยู่เป็นประจำว่าตนมีสุขภาพดี และเคยเรียกตัวเองว่าเป็น "ประธานาธิบดีที่สุขภาพแข็งแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา" อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ เคยเดินสะดุดบันไดเครื่องบิน "แอร์ฟอร์ซวัน" ยังดีที่จับราวบันไดไว้ตลอดจึงไม่เสียหลักล้มจนตกลงมา
2.น้ำท่วมเกาหลีใต้ยังวิกฤต เสียชีวิตแล้ว 4 คน
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคกลางเกาหลีใต้ยังวิกฤต ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 5,000 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยายังแจ้งเตือนเฝ้าระวังฝนตกหนักในภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ทั้งทางตะวันตกและทางตอนใต้ และขอให้เฝ้าระวังเหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักจนถึงวันเสาร์นี้ ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 คน คนหนึ่งถูกกำแพงกันดินริมถนนถล่มลงมาทับรถยนต์ที่จังหวัดคยองดี ส่วนที่จังหวัดชุงชองใต้ 2 คน เสียชีวิตในรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม และอีกคนหนึ่งถูกน้ำท่วมเสียชีวิตในชั้นใต้ดิน นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายอีก 1 คน
ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยพิบัติเป็นระดับสูงสุด และประกาศใช้มาตรการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ใช้มาตรการฉุกเฉินดังกล่าว นับตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นขนุน พัดถล่มเกาหลีใต้ เมื่อปี 2566
3.ปากีสถาน อ่วม ! วันเดียวเสียชีวิตจากน้ำท่วม 63 คน
ลมมรสุมทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมใหญ่ ในแคว้นปัญจาบ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปากีสถาน ในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 63 คน และบาดเจ็บเกือบ 300 คน โดยเฉพาะที่เมืองลาฮอร์ เสียชีวิตถึง 15 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับฝนตกหนักและน้ำท่วม ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 159 คน บ้านเรือนเสียหายหว่า 1,000 หลัง โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากหลังคาอาคารบ้านเรือนที่ทรุดโทรมพังถล่มลงมาทับ คาดว่าพายุฝนฟ้าคะนองจะคงอยู่ต่อไปอีก 3 วัน และจะมีฝนตกหนักทางตอนเหนืออีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว สวนทางกับระบบระบายน้ำที่ย่ำแย่ ส่งผลให้ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปากีสถานช่วงหลัง ๆ รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม
4.สหราชอาณาจักร มีแผนลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็น 16 ปี
รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีแผนให้ผู้ที่มีอายุ 16 ปี และ 17 ปี มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งทุกระดับของสหราชอาณาจักร จากเดิมกำหนดอายุไว้ที่ 18 ปี ซึ่งถือเป็นการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เสนอในครั้งนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาก่อน จึงจะมีผลทำให้การออกเสียงเลือกตั้งทั่วสหราชอาณาจักรสอดคล้องกันหมด เพราะเดิมสกอตแลนด์และเวลส์อนุญาตให้เยาวชนเข้าร่วมการเลือกตั้งแบบท้องถิ่นอยู่แล้ว
ส่วนสาเหตุที่มีการเสนอให้ลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกระดับในสหราชอาณาจักร เนื่องจากในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด เมื่อปี 2567 มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพียง 59.7 % ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไป นับตั้งแต่ปี 2544 รัฐบาลจึงต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยของสหราชอาณาจักรมากขึ้น
จากข้อมูลห้องสมุดสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษระบุว่า งานวิจัยจากประเทศต่าง ๆ ที่ลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงเป็น 16 ปี แสดงให้เห็นว่าการลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่มีผลกระทบต่อผลการเลือกตั้ง และเยาวชนอายุ 16 ปี มีแนวโน้มที่จะลงคะแนนเสียงมากกว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี
ปัจจุบัน พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล มีคะแนนนิยมลดลงอย่างมาก หลังจากชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปีที่แล้ว และเคยสัญญาไว้ว่าหากได้เป็นรัฐบาล ก็จะทำการลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
นอกจากนี้ เพื่อรับมือกับการแทรกแซงจากต่างชาติ รัฐบาลยังมีแผนเพิ่มความเข้มงวดกฎระเบียบเกี่ยวกับการรับบริจาคทางการเมืองที่มีมูลค่าเกิน 500 ปอนด์ (เกือบ 22,000 บาท) จากสมาคมที่ไม่ได้จดทะเบียน หรือบริษัทที่เปิดขึ้นเพื่อปิดบังผู้ได้รับผลประโยชน์ (Shell Company)
5. สองหนุ่ม วง "1VERSE" แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ สานฝัน K-Pop
มิวสิกวีดีโอเพลง "แช็ทเทอร์" (SHATTERED) ของวงบอยแบนด์ เค-ป็อป น้องใหม่ "1VERSE" (ยูนิเวิร์ส) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมาชิกของวงมี 5 คน จากเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ประเทศละ 1 คน แต่ที่น่าสนใจคือ อีก 2 คน เป็นผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ ได้แก่ ยู ฮยอก (Yu Hyuk) และ คิม ซอก (Kim Seok) และอัลบัมชุดแรกของวงมีเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผลพวงจากการหลบหนีออกจากประเทศที่กดขี่พลเมืองด้วย
ยู ฮยอก หลบหนีจากเกาหลีเหนือตั้งแต่ยังเด็ก ข้ามไปยังจีนและลัดเลาะชายแดนประเทศอื่น ๆ ก่อนเข้าไปอยู่ในเกาหลีใต้ ตั้งแต่ปี2556 ส่วน คิม ซอก และพ่อกับยายหลบหนีเข้ามาอยู่ในเกาหลีใต้ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทั้งคู่อายุ 25 ปี และยอมรับว่าอดีตของพวกเขาแตกต่าง แต่ทั้งคู่อยากให้ทุกคนยอมรับในผลงานเพลง มากกว่าจดจำว่าพวกเขาเป็นผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ
ยู ฮยอก ย้อนอดีตสมัยอยู่ในเกาหลีเหนือว่า เขาเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และต้องดิ้นรนมากเพื่อหาอาหารบรรเทาความหิวโหย บางครั้งก็ต้องกินข้าวบูดหรือขโมยของ เมื่อถูกจับได้จะถูกเฆี่ยนตีจนเลือดซิบ จึงต้องคิดถึงการเอาชีวิตรอดตามสัญชาติญาน และเพลงเปิดตัวของวงสะท้อนถึงความรู้สึกที่เขารู้สึกที่หัวใจแตกสลาย เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของพ่อในเกาหลีเหนือ ส่วนแม่ของเขาหลบหนีมาอยู่ในเกาหลีใต้ก่อนนานแล้ว
ส่วน คิม ซอก เคยอาศัยอยู่ในเมืองชายแดนใกล้ประเทศจีน เริ่มชอบเค-ป็อปจากเพื่อนที่เอามิวสิกวิดีโอมาให้ชม รวมถึงเพลงฮิต "Gangnam Style" ของ Psy โดยเขาใช้เวลา 5 ปี ก็สานฝันมีผลงาน เค-ป็อป เป็นครั้งแรกในชีวิต
ทั้งคู่ย้ำว่า นอกจากหวังว่าผลงานของพวกเขาจะได้รับการยอมรับในวงการเพลงระดับโลก ทั้งคู่ยังอยากเป็นไอดอล ถ่ายทอดข้อความแห่งความหวังและกำลังใจให้กับผู้คนที่ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากทั่วโลก ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับชาวเกาหลีเหนือในการเผยแพร่มิวสิกวีดีโอและภาพยนตร์ซีรีส์จากเกาหลีใต้ ซึ่งนักเรียนมัธยมศึกษาเคยถูกนำตัวขึ้นศาลลงโทษมาแล้ว
