กทม. สั่งลงโทษวินัย จนท.เขต ตัดต่อภาพจบงาน Traffy Fondue ส่งกลับผู้ร้องเรียน บอกแก้ไขแล้ว พร้อมประสาน สวทช. พัฒนาระบบกรองภาพปลอม เร่งฟื้นความเชื่อมั่นประชาชน
วันนี้ (18 ก.ค. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เผยถึงกรณีเพจดังแชร์ภาพที่ประชาชนร้องเรียนจอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้าผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue ของ กทม. แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่มีการตัดต่อลบจักรยานยนต์ออกจากรูป ก่อนส่งให้กับผู้แจ้งว่ามีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตบางพลัด ใช้ AI ลบภาพที่ประชาชนร้องเรียน เพื่อแสดงว่าได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้น ทั้งที่ความจริงยังไม่มีการแก้ไข ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้ ผอ.เขตบางพลัดเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน พร้อมเตรียมออกหนังสือเวียนแจ้งแนวปฏิบัติไปยังทุกเขตอย่างเคร่งครัด ห้ามเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานปลอมแปลง หรือตัดต่อภาพ หรือใช้ข้อมูลเท็จใด ๆ ในการปิดเรื่องข้อร้องเรียนของประชาชนเป็นสถานะ “เสร็จสิ้น” โดยเด็ดขาด หากพบว่าหน่วยงานใดฝ่าฝืน ให้ลงโทษตามควรแก่กรณีต่อไป
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้ประสานสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Traffy Fondue เร่งพัฒนา ระบบคัดกรองภาพปลอม ทั้งจากประชาชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันปัญหาซ้ำรอย นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ โดยระบบจะสามารถตรวจจับและสั่งระงับภาพปลอมได้ทันที ย้ำว่ากรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมยกระดับระบบให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และตอบสนองประชาชนได้อย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นในการร้องเรียนผ่านระบบดิจิทัลของเมือง
โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวขอขอบคุณเพจ “ฟุตบาทไทยสไตล์” ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนกรุงเทพฯ พร้อมขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ผู้ตอบเรื่องร้องเรียนได้ยอมรับผิดแล้ว และจะถูกดำเนินการทางวินัยตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ สำนักงานเขตบางพลัดได้ดำเนินการตรวจสอบใหม่ทันทีตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 68 และส่งหนังสือแจ้งผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้ง หากประชาชนพบการ “ปิดเรื่องปลอม” หรือข้อมูลไม่ถูกต้องในระบบ Traffy Fondue สามารถกดเปิดเรื่องใหม่ได้ทันที
ด้านสำนักงานเขตบางพลัด ยืนยันว่า การจอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับการร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 17 (2) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยได้ออกหนังสือแจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถให้เข้ามาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ ภายใน 15 วันทำการ หากเพิกเฉยโดยไม่มีเหตุผลอันควร เขตจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้เจ้าของรถยังไม่มาติดต่อ ซึ่งสำนักงานเขตฯ จะติดตามเรื่องต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างจริงจังและเท่าเทียม
