วันนี้ (20 ก.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม น.ส.โชติกา จำนวน 3 หมายจับ
โดยเมื่อประต้นปี 59 กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 4–5 ราย ในพื้นที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ถูก น.ส.โชติกา ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจเทรดทองคำผ่านบริษัทแห่งหนึ่ง และช่องทางเฟซบุ๊กในชื่อเดียวกัน การันตีผลกำไรแก่ลูกค้า โดยอ้างว่าอดีตสามีของตนมีประสบการณ์ด้านการลงทุนและทำกำไรจากการเทรดทองคำได้จริง ทำให้ผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดหรือบุคคลรู้จัก เกิดความเชื่อถือและยินยอมร่วมลงทุนด้วยความสมัครใจ
เมื่อลูกค้าที่สนใจลงทุนไปแล้วปรากฏว่า ในช่วงแรกได้รับผลตอบแทนเป็นกำไรกลับมาจริง ลูกค้าหลายรายจึงได้เพิ่มจำนวนทุนในการลงทุน เพื่อหวังที่เพิ่มยอดผลตอบแทน แต่ช่วงหลังปรากฏว่าไม่ได้รับเงินผลตอบแทนติดต่อทวงถาม น.ส.โชติกา ก็กลับได้รับคำตอบที่บ่ายเบี่ยง คลุมเครือ และปฏิเสธความรับผิดชอบ
โดยกลุ่มผู้เสียหายจึงเชื่อว่า การประกอบธุรกิจของ น.ส.โชติกา เป็นการระดมทุน มีลักษณะที่เป็นแชร์ลูกโซ่ นำเงินทุนของลูกค้าไปหมุนแจกจ่ายเป็นกำไรให้ลูกค้ารายต่าง ๆ ไม่ได้นำเงินที่ให้ไปใช้ลงทุนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่าสิบล้านบาท นำไปสู่การออกหมายจับ จำนวน 3 หมายจับข้างต้น
ภายหลังที่ถูกออกหมายจับ น.ส.โชติกา ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่เมืองพัทยา และปิดปังตัวตน จนยากต่อการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจ โดยหมายจะหมดอายุความในเดือน ก.พ.2569 คงเหลืออายุความประมาณ 7 เดือน
กระทั่ง เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า น.ส.โชติกา ได้หลบหนีมาอยู่ที่ละแวก หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้เข้าตรวจสอบ จนสามารถติดตามจับกุมได้ตามหมายจับทั้งหมดข้างต้น ส่ง สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
