ปราบยาเสพติดสำคัญที่สุด ภูมิธรรม ลั่นเฉื่อยชา ละเลย โดนย้ายแน่ ตอนปราบคอลเซนเตอร์ สั่งย้ายผู้กำกับ 3 อำเภอชายแดนมาแล้ว แม้ตัวเลขการจับกุมดี แต่ความรู้สึกของประชาชนยังเห็นว่าหนักอยู่ แสดงว่ายังทำได้ไม่พอ
วันนี้ (20 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทย” ถึง ความต่อเนื่องในการปราบปรามยาเสพติด ว่า จะใช้กระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหา จึงได้เดินหน้าพูดคุยกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ที่อาจจะยังไม่ทำงานสอดประสานกันมากนัก หรือทำงานกันได้อย่างไม่เต็มที่ เวลาไปเจอประชาชนเขารู้อยู่เต็มอกว่าปัญหาอยู่ที่ไหน สิ่งสำคัญที่ตนมักได้ยิน ว่าสารวัตรอำเภอ ปลัดอำเภอ หรือแม้ระดับผู้การฯจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดบ้าง ช่วยส่งเสริมอำนวยความสะดวกให้ยาเสพติดเข้ามาได้โดยง่าย มีจุดพักยาแล้วหลบไปได้อย่างสบาย
“คนที่ดีเขาก็พยายามสกัดกั้น แต่บางคนก็ไปเจ้ากี้เจ้าการเปิดด่าน ปล่อยให้มีการข้ามด่านมา รู้อยู่แก่ใจแต่เมื่อได้ผลประโยชน์ก็ทำ อันนี้อยากให้เลิก ผู้ที่มีอำนาจในการใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหา ไม่ทำ จากนี้ไปถ้าผมไปเจอแล้วยังมีปัญหาอยู่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก่อนอื่นจะย้ายออกนอกพื้นที่ เอามาประจำที่ไหนก่อนก็ได้ ผมพูดจริงถ้าไม่เชื่อในเร็ว ๆ นี้ ถ้ายังมีอยู่ สั่งย้ายเลย เพราะในสมัยที่แก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ก็สั่งย้ายผู้กำกับฯ 3 อำเภอชายแดน จ.ตาก เพราะได้ข่าวว่าเป็นตัวการหลักในการลงทุนสร้างบ่อน”
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ถ้าเฉื่อยชา ปล่อยปะละเลย หรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเราก็จะใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ตนเชื่อว่าการแก้ปัญหายาเสพติดจะดีขึ้นเยอะ ขบวนการตราสับปะรดก็ต้องช่วยกัน บางครั้งการจับยาเสพติดเป็น 10 ล้าน ก็ได้ประชาชนในการชี้เบาะแส อีกทั้งเรายังมีการประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อจับตัวการใหญ่แถบประเทศเพื่อนบ้าน ติดตามเส้นทางทางการเงินเครื่องมือ คือ เจ้าพนักงานปกครองและฝ่ายปกครองทั้งหมด ถ้าหลายจังหวัดมีปัญหาผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค ต้องรับผิดชอบ ถ้ามีหลายกองบัญชาการรวมกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องรับผิดชอบ หากเป็นฝ่ายปกครองมีปัญหา ปลัดกระทรวงมหาดไทย ต้องรับผิดชอบ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องยาเสพติด เป็นภารกิจสำคัญของแต่ละกรม และแต่ละกระทรวงและหน่วยงานกลาง ทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่จะผลักดันให้เกิดไปในทิศทางที่เดียวกัน อยากขอความร่วมมือทุกส่วน ถ้าปล่อยแบบนี้จะมีแต่ทำลายบ้านเมือง ทำลายสังคม รัฐบาลทำเรื่อง Seal Stop Safe 3-4 เดือน แม้จะทำได้ดีตัวเลขเปอร์เซ็นต์ดี แต่ความรู้สึกของประชาชนยังเห็นว่าหนักอยู่ แสดงว่ายังทำได้ไม่เพียงพอ และต้องทำให้มาตรการเข้มข้นขึ้น เมื่อเข้าสู่เฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 เมื่อตนมาอยู่กระทรวงมหาดไทยจะใช้กลไกให้เข้มข้นขึ้น
