สนามข่าว 7 สี - อิทธพลของพายุวิภา มีหลายจังหวัดได้รับผลกระทบ อย่างที่แม่สาย จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน จนรถไม่สามารถสัญจรได้
เจ้าหน้าที่ อบต.ศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กำลังตัดต้นไม้ ที่ล้มทับขวางกลางถนน ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถเคลื่อนย้ายและดันกำแพงที่ขวางถนนออกจากพื้นผิวจราจรสำเร็จ ก่อนเปิดให้มีการสัญจรตามปกติ
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช "แอ๋ม ไก่ทอด" แม่ค้าชื่อดังของอำเภอนาบอน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สถานการณ์พายุ "แอ๋ม ไกรนรา" แม่ค้าร้านไก่ทอด ชื่อดังของอำเภอนาบอน รายงานเหตุการณ์ระทึก หลายพื้นที่ต้นไม้ถูกลมพัดหักโค่น เตือนภัยผู้ใช้ถนนให้ระมัดระวังพายุ ลมกระโชกแรงขับรถด้วยความระมัดระวัง
ส่วนที่สวนยางบริเวณบ้านบ่อช้าง หมู่ที่ 1 ตำบลกุแหระ มีเหตุการณ์ระทึก หญิงอายุ 50 ปี เดินอยู่ขณะที่ฝนตกและลมพัดแรง ต้นยางล้มลงมา ถูกฟาดเข้าที่แขนจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ เบื้องต้นอาการปลอดภัย
ส่วนความเสียหายจากลมพายุพัดถล่ม พื้นที่อำเภอทุ่งใหญ่ ต้นไม้จำนวนมากหักโค่นล้มระเนระนาดทับสายไฟฟ้า ไฟฟ้าดับหลายพื้นที่ บ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลัง มีรถยนต์หลายคันได้รับความเสียหายจากต้นไม้ทับ กู้ภัยและเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อเคลียร์ต้นไม้ที่ขวางถนน และซ่อมแซมสายไฟฟ้า
ประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 3 เตือน 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ วันที่ 25 กรกฎาคม ที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่าน ประมาณ 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณระหว่าง1,500-1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กรมชลประทาน มีความจำเป็นต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ระหว่าง 700-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20-80 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ที่คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง, คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา, อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
