เวลา 08.02 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังกองวิชาประวัติศาสตร์ ส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก ทรงร่วมการสัมมนาวิชาการประจำปีเฉลิมพระเกียรติ "พลเอกหญิง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ด็อกเตอร์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568" ซึ่งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสถาบันการศึกษา โดยมีนักวิชาการ อาจารย์ นิสิต นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทั้งของทหารและพลเรือน เข้าร่วมฯ
โอกาสนี้ ทรงแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง "เรื่องเล่าจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีน" โดยทรงถ่ายทอดพระประสบการณ์ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งแรกเมื่อปี 2524 จนถึงปัจจุบัน ทรงศึกษาภาษาจีนมาอย่างต่อเนื่อง ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองและมณฑลต่าง ๆ ของจีน ทรงใช้ภาษาจีนสื่อสาร และเคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงพระอักษรจีน และทรงศึกษาวัฒนธรรมจีน ณ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ไทยกับจีน มีความร่วมมือระหว่างกันมาตลอด เกิดจากพระราชดำริ ภายใต้มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ ร่วมมือกับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน เช่น ด้านการศึกษาการวิจัยและการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมมือกับสภาวิทยาศาสตร์แห่งจีน มีทุนการศึกษาระดับปริญญาเอก, การแลกเปลี่ยนความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมด้านดาราศาสตร์และอวกาศ, ความร่วมมือด้านนาโนเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ, การวิจัยพัฒนาแสงซินโครตรอน, ความร่วมมือการวิจัยขั้วโลก และการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ทรงนำนักเรียนนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ไปทัศนศึกษา ณ เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง เพื่อให้นักเรียนนายร้อย เพิ่มพูนความรู้ทางวิทยาศาตร์ และเทคโนโลยีของจีน จากประสบการณ์ตรง จากสถานที่จริง และทรงกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบ 50 ปี ในปี 2568 ทั้งนี้ เมื่อปี 2562 รัฐบาลจีน ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ รัฐมิตราภรณ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ระดับสูงสุดสำหรับชาวต่างชาติ
จากนั้น ทรงร่วมการสัมมนาในหัวข้อ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน มุมมองจากงานแปลเอกสารสำคัญจากประเทศจีน รัสเซีย กัมพูชา สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และอังกฤษ มีนักวิชาการจีน วิทยากรจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และมหาวิทยาลัยศิลปากร นำเสนอผลงานแปลเอกสารทางประวัติศาสตร์ ในมุมมองต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
"หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์" เป็นโครงการพระราชดำริฯ ตั้งขึ้นปี 2535 เพื่อรวบรวมและจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวกับประเทศไทย จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนและการวิจัยของอาจารย์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และให้นักวิชาการ อาจารย์ นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจ สามารถค้น อ่าน และนำเอกสารไปใช้ได้ สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ให้สมบูรณ์และทันสมัยขึ้น จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้รวบรวมและจัดเก็บข้อมูลจากเอกสาร และแปลงเป็นเอกสารดิจิทัล มาวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ และจัดระบบเอกสารข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์บรรจุลงใน "หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์" และพัฒนาองค์ความรู้ของหอจดหมายเหตุ ในการบริหารจัดการเอกสารอย่างเป็นระบบ พัฒนาชุดข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของไทยในต่างประเทศ อาทิ ชุดข้อมูลเอกสารสำคัญของไทย สมัยสงครามเกาหลี และสงครามโลก รวบรวมเอกสารจาก 5 ประเทศ, ชุดข้อมูลสำคัญในช่วงสงครามเย็น ทั้งค่ายโลกเสรี ค่ายคอมมิวนิสต์, และชุดข้อมูลเอกสารประวัติศาสตร์ไทยกับกลุ่มอินโดจีน รวบรวมเอกสารสมัยสงครามเย็น สู่สมัยหลังสงครามเย็น จากสมาคมอาเซียนสู่ประชาคมอาเซียน ชุดข้อมูลนี้ มีคำอธิบายตามมาตรฐานสากล ที่ระบุรายละเอียด แหล่งข้อมูล และคำอธิบาย ทำให้ผู้ใช้ข้อมูลทราบว่าข้อมูลมาจากที่ใด มีรูปแบบอย่างไร สะดวกในการสืบค้น และใช้ประโยชน์ในการจัดทำบัญชีข้อมูลของประเทศ พร้อมจัดเก็บใน "คลังข้อมูล" หอจดหมายเหตุต่างประเทศทูลกระหม่อมอาจารย์ เพื่อเป็นประโยชน์ในเชิงวิชาการต่อไป หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์ เป็นแหล่งความรู้ที่ทรงคุณค่า พัฒนาสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งความรู้ ด้วยหลักฐานและข้อมูลจริง เพื่อการศึกษา ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในอนาคต