ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังกัมพูชาเปิดฉากโจมตีทหารไทย ประชาชน ผู้สูงวัย ตามแนวชายแดนพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ต่างหอบลูกจูงหลาน หนีวิถีกระสุนกันอลม่าน เป้าหมายข้างหน้าคือ หลุมหลบภัยบ้าง ศูนย์อพยพบ้าง รอยแผลครั้งนี้กรีดลึก เพราะไม่เพียงบ้านเรือนประชาชน อย่างโรงพยาบาล ก็ถูกโจมตีด้วย
ชาวบ้านหนีวิถีกระสุนกันอลหม่าน จ.สุรินทร์
ชาวบ้านหนองคันนา ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ต่างเก็บข้าวของ รีบอพยพเข้าบังเกอร์หลบภัย เพื่อรอผู้นำชุมชนมาลำเลียงชาวบ้านออกจากพื้นที่ ไปยังศูนย์อพยพที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุหลายสิบกิโลเมตร ชาวบ้านบางคน บอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สถานการณ์เหมือนกับตอนปี 2554 และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะจบลงอย่างไร
ตามรายงานข่าวแจ้งว่า ทางกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ที่ไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ ยิงเข้ามาที่ฝั่งไทย ทำให้เกิดความสูญเสีย บางครอบครัวสูญเสียคนในครอบครัวไปแบบต่อหน้าต่อตา เพราะกระสุนมาตกลงที่หน้าบ้านพอดิบพอดี บางบ้านเด็กวัย 2 เดือน เด็กนักเรียนโดนสะเก็ดระเบิด บาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก
ส่วนคุณยายท่านนี้ ร้องไห้จนแทบเสียสติ สองมือประคองร่างหลานตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากวิถีกระสุน พากันขึ้นรถอพยพออกนอกพื้นที่
วิถีกระสุนปืนใหญ่ตกหน้าโรงพยาบาล จ.สุรินทร์
ส่วนภาพทหารกำลังหมอบคลาน ภาพที่เห็นเป็นภาพจากโรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อยู่ที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีผู้ป่วย แพทย์ และพยาบาล อยู่ภายในโรงพยาบาลจำนวนมาก ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังนำทหารบาดเจ็บจากการปะทะมาส่งโรงพยาบาล แต่กระสุนปืนใหญ่ตกมาที่หน้าอาคารฉุกเฉิน 2 ลูก ย้ำว่านี่โรงพยาบาล ภาพนี้บาดลึกในหัวใจคนไทย เจ้าหน้าที่ต้องพากันมุดใต้ถุนอาคารเพื่อเอาตัวรอด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้ป่วยบางส่วนออกจากพื้นที่แล้ว
ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ นอกจากปราสาทตาเมือนธมแล้ว กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชา ตกใกล้ชุมชนพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพนมดงรัก และตำบลบ้านชบ อำเภอสังขะ, ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง