องคมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการไตรมูลนิธิ

View icon 413
วันที่ 24 ก.ค. 2568 | 20.04 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
ที่อาคาร 606 สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี และ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการไตรมูลนิธิ ประกอบด้วย มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2568 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นประธานที่ปรึกษา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานกรรมการ

มีวาระต่าง ๆ อาทิ การดำเนินงานระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงมิถุนายน 2568 มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ฯ สร้างความสมดุลระหว่างคนและช้างป่า ในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ร่วมกับชุมชน และภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างความเข้าใจ ให้การช่วยเหลือ และแก้ปัญหาช้างป่าบุกรุกหากินในพื้นที่การเกษตร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ราษฎร เช่น เพิ่มถิ่นอาศัยของช้างป่าและสร้างแหล่งอาหารช้างป่า ปรับปรุงคูกั้นช้างและแนวรั้ว เพื่อสกัดกั้นช้างป่า และสร้างเพิ่มในพื้นที่รอยต่อบ้านหนองปลาซิวและบ้านอ่างเสือดำ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ฝึกอบรมเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ อบรมเยาวชนคชานุรักษ์ เพื่อนำความรู้พฤติกรรมช้างป่าไปเผยแพร่และประยุกต์ใช้ในโรงเรียน พร้อมส่งเสริมอาชีพ ปัจจุบันมีหมู่บ้านคชานุรักษ์ 16 แห่ง และหมู่บ้านเครือข่าย 57 แห่ง 

มูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ฯ ดำเนินงานด้านสุขภาพแก่ผู้ต้องขัง เช่น ขึ้นทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำกับโรงพยาบาลแม่ข่าย บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในเรือนจำ ติดตามผู้ต้องขังพ้นโทษ ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต พร้อมฝึกทักษะอาชีพเมื่อพ้นโทษจะได้มีอาชีพ มีงานทำ ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

มูลนิธิภูบดินทร์ฯ ได้ช่วยเหลือราษฎรตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เป็นชุมชนอยู่ติดชายแดน และมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ ปัจจุบันดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรใน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านสาละวะ บ้านไล่โว่ บ้านทิไล่ป้า บ้านปางสนุก และบ้านจะแก โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นพื้นที่แหล่งมรดกโลกของไทย และเป็นป่าต้นน้ำลำธารที่สำคัญ อาทิ ส่งเสริมการปลูกไม้ผลเดิม คือ กาแฟ และมะม่วงหิมพานต์ ที่บ้านทิไล่ป้า บ้านปางสนุก และบ้านจะแก

ข่าวอื่นในหมวด