กัมพูชาเรียกร้องในที่ประชุม UNSC ให้ไทยหยุดยิงทันที โดยไม่มีเงื่อนไข
ในการประชุมแบบปิด วาระ "ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ" ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่จัดขึ้นเมื่อช่วง 02.00 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาในไทย ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ
เจีย แก้ว (Chhea Keo) ผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้ไทยเคารพอธิปไตยของกัมพูชาอย่างเต็มที่ และยุติการรุกรานทางทหารต่อกัมพูชาทันที โดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งด้วยกําลังอาวุธยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค และเพื่อรักษาสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศ กัมพูชาเลือกที่จะส่งกรณีพื้นที่พิพาททั้ง 4 พื้นที่ ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ และขอประกาศไว้ล่วงหน้าว่ากัมพูชาจะยอมรับคำตัดสินของ ICJ ทั้งหมด
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามไทยอย่างรุนแรงต่อการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุและวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยกัมพูชาระบุว่า เมื่อเวลา 05.02 น. วันนี้ (26 ก.ค.) ไทยยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่พื้นที่หลายจุดของจังหวัดโพธิสัตว์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับจังหวัดตราด ซึ่งการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง กัมพูชาเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมประณามไทย และขอสงวนสิทธิในการป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ
ขณะเดียวกัน มีการเผยภาพรถทหารของกัมพูชาแล่นอยู่ในจังหวัดอุดรมีชัย ใกล้ชายแดนไทย ขณะที่การปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาเข้าสู่วันที่สาม โดยเป็นรถบรรทุกสิ่งของที่คลุมด้วยผ้าใบกันน้ำและมีทหารคอยคุ้มกัน และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลาโหมกัมพูชา เปิดเผยตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่ามีทหารเสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บ 21 คน ส่วนพลเรือน เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บอีก 50 คน ประชาชนราว 35,800 คน ต้องอพยพ
