โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชา โจมตีทหารไทยตั้งแต่เช้าตรู่ หลังทรัมป์ ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวด BM-21

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชา โจมตีทหารไทยตั้งแต่เช้าตรู่ หลังทรัมป์ ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวด BM-21

View icon 10.3K
วันที่ 27 ก.ค. 2568 | 09.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (27 ก.ค. 68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐ ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหาร ในพื้นที่ จ.สุรินทร์  

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กชื่อ ”กองทัพบก ทันกระแส” ได้โพสต์ข้อความ อ้าง พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน การเจรจาเป็นระดับรัฐบาล ส่วนทหารในสมรภูมิยังต้องทำตามยุทธวิธีต่อไป ตราบใดที่การหยุดยิงยังไม่ชัดเจน จะมีการหยุดยิง ก็ต่อเมื่อกัมพูชาจะต้องเป็นฝ่ายมาขอเจรจาเองเท่านั้น ที่สำคัญ ตั้งแต่เมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาก็ยังไม่หยุดยิง เพราะยิงปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และยังยิงเข้ามาในเขตช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อพยายามจะ ยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์คืน หลังจากที่ทหารไทยเข้ายึดได้ ขณะที่ทหารไทยต้องใช้ปืนใหญ่พิสัยไกลยิงตอบโต้ ไปยังเป้าหมายของปืนใหญ่และเครื่องยิงจรวดฝ่ายกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดBM-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่บ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อเวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ตกบริเวณบ้านเรือประชาชน พื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ห่างกันประมาณ 10 นาที ช่วงเวลา 06.40 น. กัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาตกใส่บ้านประชาชนทำให้เพลิงไหม้บ้านทั้งหลัง ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ต่อมาเวลา 07.45 น. มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ชุมชน ใน อ.พนมดงรัก จำนวน 3 ลูก เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ ห่างกัน 5 นาที ช่วงเวลา 07.50 น. ทางทหารกัมพูชา ยังยิงจรวด BM-21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ส่วนชาวบ้านอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ก่อนหน้านี้แล้ว